ครม.ไม่หล่อมีตำหนิ “เศรษฐา” เหงื่อตก!?

เมืองไทย 360 องศา

ประมาณการกันว่า ภายในวันที่ 8 กันยายน นี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนใหม่ น่าจะได้แถลงนโยบายรัฐบาลต่อสภา ตามที่ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาแจ้งมาให้ทราบคร่าวๆ แล้ว อย่างไรก็ดี ก็ต้องรอขั้นตอนตามกระบวนการก่อนหน้านั้นให้เสร็จสิ้นเสียก่อนจะไปเร่งรัดไม่ได้

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีชื่อ นายพิชิต ชื่นบาน จะมานั่งตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และก่อนหน้านี้ มีการตั้งข้อสงสัยว่า จะมีชื่อ นายชูศักดิ์ ศิรินิล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นั่งตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ว่า ตนเข้าใจว่า คงได้รับมอบหมายให้ไปทำอย่างอื่น สำหรับนายพิชิต ก็อยู่มานานแล้ว และเข้าใจว่า เสร็จ100% แล้ว จริงๆ ไม่อยากเปิดเผยชื่อเท่าไหร่ เพราะขณะนี้ตรวจสอบคุณสมบัติ ซึ่งคาดว่า จะใช้เวลาตรวจสอบคุณสมบัติ 2 วัน

ถามว่า จะสามารถนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯได้ภายในสัปดาห์นี้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่อาจไปก้าวล่วง ส่วนที่ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา วางกรอบแถลงนโยบายไว้ประมาณวันที่ 8 กันยายนนี้ จะเป็นไปได้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ถ้าได้ก็ดี ซึ่งมีการนัดคุยเรื่องนโยบายกับพรรคร่วมรัฐบาลตลอด โดยในวันที่ 30 สิงหาคม พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ก็จะเข้ามา วันนี้ จะมีการคุยนโยบายกับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ด้วย และเมื่อวานนี้ (28 สิงหาคม) คุยนโยบายบางส่วนกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งคิดว่าไม่น่ามีประเด็นอะไร อย่างไรก็ตาม เราได้มีร่างนโยบายไว้เรียบร้อยแล้ว โดยมีการนำของพรรคร่วมรัฐบาลมาเสริม หรือใครก็ตามที่มีนโยบายของพรรคก็สามารถนำมาหล่อหลอมเป็นนโยบายได้

ส่วนที่มีเสียงสะท้อนจาก ส.ส.ในพรรค พท. ถึงความไม่พอใจเรื่องการแบ่งกระทรวง นายเศรษฐา กล่าวว่า ใจเย็นๆ นิดหนึ่ง อาจจะมีเซอร์ไพรส์ อะไรบ้างนิดหน่อย อย่าเพิ่งตีตนไปเป็นก่อนไข้ ขอให้ดูรายชื่อทั้งหมดและโครงสร้างในการแบ่งงานก่อน พยายามเต็มที่ให้ทุกคนไม่ผิดหวัง

ถามว่า ในการประชุม ส.ส.พรรค จะต้องทำความเข้าใจหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า วันนี้ตนจะเข้าประชุมด้วย และถ้ามีโอกาสต้องชี้แจง หากมีปัญหาหรือความไม่เข้าใจภายในพรรคกันเอง เราคุยกันในบ้าน ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ในพรรคต้องชี้แจง ประนีประนอมกัน

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าโผ ครม.ชุดเทียบไม่ได้กับครม.ชุดเก่า นายเศรษฐา กล่าวว่า ขอให้ใจเย็นนิดหนึ่ง และต้องให้เกียรติว่าที่รัฐมนตรีทุกท่านด้วย ขอโอกาสและขอให้ดูที่ผลงานเป็นหลัก

ขณะเดียวกัน มีรายงานล่าสุดว่า รายชื่อบุคคลที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรีที่มี นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี หรือ “เศรษฐา 1” จำนวน 36 รายชื่อ ซึ่งได้ส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ตรวจสอบคุณสมบัติไปแล้วนั้น ประกอบด้วย

พรรคเพื่อไทย

1. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ควบ รมว.คลัง 2. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ ควบ รมว.พาณิชย์ 3. นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯ ควบ รมว.ต่างประเทศ 4. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯ 5. นางพวงเพชร ชุนละเอียด รมต.ประจำสำนักนายกฯ 6. นายพิชิต ชื่นบาน รมต.ประจำสำนักนายกฯ 7. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข 8. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดีอีเอส 9. นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม 10. นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม 11. นางสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา

12. นายเสริมศักดิ์ พงษ์พาณิชย์ รมว.วัฒนธรรม 13. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง 14. นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม 15. นายสุรพงษ์ ปิยโชติ รมช.คมนาคม 16. นายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.ต่างประเทศ 17. นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย18. นายไชยา พรหมมา รมช.เกษตรและสหกรณ์

พรรคภูมิใจไทย

19. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ ควบ รมว.มหาดไทย 20. พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ 21. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน 22. น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.อุดมศึกษา 23. นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย 24. นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย 25. นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ 26. นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์

พรรคพลังประชารัฐ

27. พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ควบ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 28. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ 29. นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข 30. นายไผ่ ลิกค์ รมช.พาณิชย์

พรรครวมไทยสร้างชาติ

31. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ ควบ รมว.พลังงาน 32. น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม

33. นายอนุชา นาคาศัย รมช.เกษตรและสหกรณ์ 34. นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.คลัง

พรรคชาติไทยพัฒนา 

35. นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความั่นคงของมนุษย์ 

 พรรคประชาชาติ 

36. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม

เมื่อพิจารณาจากรายชื่อคณะรัฐมนตรีตมโผล่าสุดที่ออกมาแล้ว และเชื่อว่า น่าจะร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว ทำให้หลายคนสำรวจหน้าตา ภูมิหลังของแต่ละคนแล้ว ก็ต้องยอมรับตรงกันว่า “ไม่ค่อยหล่อ” เท่าไหร่นัก ตรงกันข้ามจะออกไปทางมี “รอยตำหนิ” ชัดเจนเสียอีก เพราะเท่าที่สำรวจรายชื่อไปทีละคนจะเห็นว่าอาจจะไม่ได้ตอบโจทย์ตามความคาดหวังในเรื่องความรู้ความสามารถ เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน แต่มาตามโควตา ตามสัดส่วนในแต่ละพรรค หรือแม้แต่บางพรรค ที่เป็นพรรคแกนนำรัฐบาลอย่าง เพื่อไทย ที่เมื่อส่องดูรัฐมนตรีแต่ละคนก็เหมือนกับว่ายังไม่พ้นจากคำว่า “ธุรกิจการเมืองในครอบครัว” หรือการ “ส่งเด็กในบ้าน” เข้ามาทำหน้าที่ในตำแหน่งสำคัญ โดยเฉพาะทางด้านกฎหมาย ที่เอาคนที่มีประวัติ “ด่างพร้อย” เข้ามานั่งเก้าอี้รัฐมนตรี

เมื่อหน้าตารัฐมนตรีออกมาอย่างที่เห็นมันก็ย่อมทำให้หลายคน “เสียความรู้สึก” ผิดไปจากที่คาดหวังเอาไว้ไม่น้อย แม้ว่าก่อนหน้านี้อาจจะทำใจเอาไว้บ้างแล้วก็ตาม แต่เมื่อได้เห็น “รอยตำหนิ” ดังกล่าวมันก็ย่อมทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ดังขึ้นอีก

นอกเหนือจากนี้ ยังมีองค์ประกอบอื่นๆ ที่มาเชื่อมโยงกันพอดี กับกรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร เดินทางกลับไทย และเริ่มถูกวิจารณ์ในเรื่องการทำตัวเป็น “อภิสิทธิ์ชน” หรือเป็น “เทวดา” อยู่ในเวลานี้ มันก็ยิ่งกลายเป็น “แต้มลบสะสม” เข้าไปเรื่อยๆ

เมื่อการเริ่มต้นด้วยภาพลักษณ์ที่ดูแล้วไม่ค่อยสวยงามแบบนี้มันก็ยิ่งทำให้ต้องเหนื่อยกว่าเดิมหลายเท่า โดยเฉพาะเมื่อสำรวจปัญหารอบด้านในเวลานี้ประดังเข้ามาอีกจาก “ปัญหาภายนอก” จนส่งผลกับเศรษฐกิจ และปากท้องของคนไทย หากพิจารณาจากยอดการส่งออกที่ติดลบต่อเนื่องกันมานานหลายเดือนแล้ว มันก็ทำให้เป็นที่จับตาว่ารัฐบาลที่นำโดย นายเศรษฐา ทวีสิน จะฝ่าฟันปัญหาไปได้หรือไม่ เมื่อพิจารณาจากรัฐมนตรีหลายคนที่มาแบบ “ต่างตอบแทน” หรือบางคนก็ไม่ต่างจาก “เด็กในบ้าน” ที่มีประวัติด่างพร้อย จนต้องตั้งคำถามว่า “ไหวหรือไม่”

อย่างไรก็ต้อง ลุ้นเอาใจช่วย นายเศรษฐา ทวีสิน และรัฐบาลว่าต้องเดินหน้าไปให้ได้ ยิ่งมีรอยตำหนิมากเท่าไร ก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ หรือต้องลบคำปรามาสให้ แต่เมื่อพิจารณาตามรูปการณ์แล้วต้องบอกว่าน่าหนักใจ และหากจะให้ผ่านไปได้ ผู้นำรัฐบาลต้องออกแรงกันเหงื่อตกแน่ !!