กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ประชุมโครงการเฝ้าระวังคุณภาพน้ำบาดาลในพื้นที่ทิ้งขยะ ปี 2566 คัดเลือกพื้นที่ทิ้งขยะ 23 พื้นที่ 13 จังหวัด เฝ้าระวังคุณภาพน้ำบาดาลปนเปื้อน เผยมี 7 แห่งเสี่ยงปนเปื้อนสูง
เมื่อวันที่ 23 ส.ค.กรมทรัพยากรน้ำบาดาล โดยสำนักอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรน้ำบาดาล จัดการประชุมสัมมนาวิชาการน้ำบาดาลด้านอนุรักษ์และฟื้นฟู ภายใต้ "โครงการเฝ้าระวังคุณภาพน้ำบาดาลในพื้นที่ทิ้งขยะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566" ณ ห้องประชุมราชพฤกษ์ โรงแรมซันไรส์ ลากูน โฮเทล แอนด์ กอล์ฟ จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมีนายพันศักดิ์ ธรรมรัตน์ ผอ.ส่วนทรัพยากรธรรมชาติผู้แทนจากจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวต้อนรับ นายสิทธิศักดิ์ มั่นอยู่ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านนโยบายและแผน(งานทรัพยากรน้ำบาดาล) กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวเปิดการประชุม มี ดร.ทัศนีย์ เนตรทัศน์ ผอ.สำนักอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการประชุม โดยการประชุมสัมมนาครั้งนี้ประกอบด้วยการบรรยายสรุปผลเฝ้าระวัง การเสวนาระดมความคิดเห็น การทดลองตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำบาดาลประเภทต่างๆ มีผู้เข้าร่วมการประชุมทั้งสิ้น 150 ราย
นายสิทธิศักดิ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากปัญหาขยะมูลฝอยจากชุมชนและของเสียอันตรายจากภาคอุตสาหกรรม ยังมีการลักลอบทิ้ง และกำจัดไม่ถูกวิธีกว่า 2,000 แห่ง คิดเป็น 71.2% ถือเป็นปัญหาสำคัญที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพประชาชน และต่อสิ่งแวดล้อม โดยได้มีการกำหนดเป็น Road Map การจัดการขยะมูลฝอยเป็นวาระแห่งชาติ ตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมาและกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้บรรจุวาระนี้ในแผนยุทธศาสตร์ของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ที่ต้องเร่งดำเนินการอย่างน้อยปีละ 22 พื้นที่ ทั้งนี้ ในปี 2566 ได้คัดเลือกพื้นที่ทิ้งขยะ จำนวน 23 พื้นที่ ครอบคลุม 13 จังหวัด เพื่อติดตามเฝ้าระวังคุณภาพน้ำบาดาล และประเมินสถานการณ์ระดับความรุนแรงของความเสี่ยงการปนเปื้อนสู่ชั้นน้ำบาดาล โดยการสร้างสถานีสังเกตการณ์น้ำบาดาล จำนวน 5 สถานี จากต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ รอบบริเวณพื้นที่ทิ้งขยะ
นายสิทธิศักดิ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ผลสรุปของโครงการพบว่ามีพื้นที่ทิ้งขยะ จำนวน 7 แห่ง ที่อยู่ในระดับการปนเปื้อนที่มีความเสี่ยงสูง มีผลกระทบรุนแรง และมีผลต่อสุขภาพ เสี่ยงต่อโลหะหนัก, สารพิษ, สารอินทรีย์ และสารอินทรีย์ระเหยง่าย ได้แก่ เทศบาลเมืองท่าโขลง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี, เทศบาลเมืองพระพุทธบาท จ.สระบุรี, อบต.แก่งเสี้ยน อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี , อบจ.ฉะเชิงเทรา, หจก. สมนึกธุรกิจ จำกัด, บริษัท ลักกี้คลีน จำกัด และบริษัทเอกอุทัย จำกัด (สาขาศรีเทพ) โดยจะมีการแจ้งผลดังกล่าวให้ทราบต่อไป