ข่าวปนคน คนปนข่าว
**"เศรษฐา"นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 "ชูวิทย์" รู้ชะตา เตรียมเผ่นไปอังกฤษ
ขอแสดงความยินดีกับนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 "เศรษฐา ทวีสิน" จากผลโหวตสภาฯ ผ่านฉลุยด้วยคะแนนท่วมท้น 482 เสียง
ถือว่าเป็นการสิ้นสุดการรอคอยของพรรคเพื่อไทยแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งยักแย่ยักยันมานาน โดยมีคนปรามาสทำนายทายทักว่า อดีตผู้บริหารแสนสิริ จะไม่มีโอกาสได้เป็นนายกฯ
แถมยังถูกกระบวนการ "ปั่นข่าว" ปั้นน้ำเป็นตัว ให้ร้ายจาก "ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์" หยิบเอากรณีซื้อขายที่ดินของ แสนสิริมาแบล็กเมล์
“ชูวิทย์” ทั้งข่มขู่ทั้งคุกคาม อุตส่าห์คิดออกเรื่องตัวเองเป็นโรคมะเร็งขึ้นมาเป็นดรามาเพิ่มความน่าเชื่อถือ จัดรายการแฉเพื่อชาติ EP แล้ว EP เล่า เพื่อสกัดขัดขวาง “เศรษฐา”ไม่ให้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่แล้ว "ความจริงมีหนึ่งเดียว"
“ชูวิทย์”ก็กลับลงโลงและถูกตอกฝาโลงด้วยเรื่องที่แฉออกมานั้นที่แท้ก็มีวาระซ่อนเร้น เพื่อต้องการให้แสนสิริและเศรษฐา ซื้อที่ดินของตัวเอง
เรียกว่า"แฉไปไถไป" อีกแล้ว
หมาขี้เรื้อนเกาตรงไหนก็คันฉันใด ชูวิทย์ ก็เป็นเช่นทำนองเดียวกัน
แฉเศรษฐาด้วยเรื่องโกหกพกลม แต่เรื่องจริงของตัวเองคือทำนิติกรรมอำพรางซะเอง!!
แน่นอน เป็นเรื่องไหนไปไม่ได้ นอกจากว่าด้วยเรื่องที่ "สนธิ ลิ้มทองกุล" ไปยื่นให้กรมสรรพากรตรวจสอบการรับโอนซื้อขายที่ดินภายในวันเดียวของตระกูลกมลวิศิษฎ์ เมื่อวันก่อน
งานนี้ “สนธิ”เปิดแผล ชูวิทย์เล่นแร่แปรธาตุ ซอยที่ดินเป็น 4 แปลง กดฐานภาษีให้ต่ำแล้วปั่นราคาที่ดินให้สูงตอนโอนอีกทอด เพื่อขายต่อ โดยนิติกรรมอำพรางเลี่ยงภาษี กว่า 954 ล้านบาท
สรรพากรรับเรื่องไปแล้ว จากนี้ไปก็คงจะต้องรอดูว่า “ชูวิทย์” ผู้พ่อที่ดึงเอาลูกๆ มาเป็นนอมินีเลี่ยงภาษี จะถูกสอบอย่างไร
เข้าทำนอง พ่อทำลูกรับกรรม!
เมื่อ “เศรษฐา” คนที่ชูวิทย์พยายามที่จะขัดขวาง และ ฟันธงว่าไม่ได้เป็นแน่นอน ผ่านฉลุยมาแบบนี้ท่ามกลางความยินดีของพรรคเพื่อไทย และกองเชียร์ คนที่ไม่ยินดีแถมถือเป็นข่าวร้ายก็คือ "ชูวิทย์ "นี่แหละ
แววว่า นอกจากนายกรัฐมนตรีแล้ว “เศรษฐา” อาจจะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อดำเนินนโยบายเศรษฐกิจเต็มสูบ ไม่อยากจะคิดว่า “ชูวิทย์”จะหนาวแค่ไหน?
โจรแฉไปไถไป เหมือนรู้ชะตากรรม จบ EP สุดท้ายแฉตอกฝาโลงตัวเอง เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทำดรามา ตีหน้าเศร้าบอกกับบรรดาคนใกล้ชิด "ขอลาก่อน"
เห็นว่า เตรียมจะบินไปอังกฤษเพื่อรักษามะเร็ง
อ้าว?? ไหนบอกจะรับผิดชอบเรื่องที่แฉ ไหนบอกเป็นมหาโจร เป็นนักแฉระดับชาติ เรียกว่า ขี้ขลาดตาขาว ปากกล้าขาสั่น โจรกระจอกจะเหมาะกว่า อะป่าว
หรือว่างานนี้อยู่ไป ก็หนาว..เผ่นก่อนดีกว่า!
**ทักษิณกลับไทย เพราะ "การละคร" ย้อนแย้ง จึงมี "ดรามา" ทัวร์มาหลายขบวน
ประเด็นการกลับบ้านของ "ลุงโทนี่" ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ตัดสินใจยุติชีวิตระเหเร่ร่อน หลบหนีคดีอยู่ต่างแดนนานกว่า 17 ปี กลับมาอาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินไทย และร่วมอากาศหายใจกับคนไทยด้วยคน ตามที่เจ้าตัวทวีตว่าไว้เมื่อวันก่อน
แน่นอนว่า เป็นกระแสสนใจของผู้คนในสังคม เกาะติดความเคลื่อนไหวบนโลกโซเชียลฯ อย่างใกล้ชิด
การมาของ “ลุงโทนี่” ไม่มีใครจะยินดีปรีดามีความสุขไปมากกว่าครอบครัวชินวัตร
ขณะที่ "เศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เพื่อไทย ทวีตข้อความในตอนเช้า ยินดี กับทักษิณและครอบครัวชินวัตร ว่า
การกลับมาประเทศบ้านเกิด พร้อมหน้ากับครอบครัว เป็นสิ่งที่ไม่มีความสุขไหนจะเทียบได้
อย่างว่า มีคนยินดี ก็ย่อมมีคนไม่ยินดีตามประสา คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนดิน มองเป็นเรื่อง "การละคร" ที่ย้อนแย้ง ในหลายฉาก
ตั้งแต่วินาทีเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวสุดหรู มูลค่าสองพันกว่าล้าน ออกจากสิงค์โปร์ มาถึงภาพบนเครื่องเผยให้เห็นความมีระดับกับนาฬิกา ที่ไม่ได้ยืมเพื่อนมาใส่มูลค่านับร้อยล้าน
งานนี้ถูกชาวเน็ตที่ไม่ใช่สีแดงคอมเมนต์กันรัวๆว่า ย้อนแย้งกับสิ่งที่ครอบครัวพยายามสื่อออกมาว่า มีชีวิตอยู่อย่างลำบาก ตลอด 17 ปีที่ผ่านมา
การแห่แหนต้อนรับของเหล่าคนรักทักษิณ และด้อมเสื้อแดง ราววีรบุรุษ ก็ถูกแซะว่า ย้อนแย้งกับสถานะความเป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดี
ถึงขนาด "พี่ศรี" ศรีสุวรรณ จรรยา นักร้องดังจับไปโพสต์ว่า นี่นักโทษนะ ไม่ใช่เทวดา!
แม้แต่ "สรยุทธ สุทัศนะจินดา" โฆษกประจำตัวของ "ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์" เอ๊ย.. พิธีกรข่าว ก็ร่วมขบวนทัวร์แซะการละครกะเขาด้วย
โดยทำคลิปประมวลภาพทักษิณกลับไทย กับ เพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล ออกรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ ใส่เพลงประกอบที่คิดว่า แสบสันต์สุด ด้วย "เพลงคืนความสุขให้ประเทศไทย" ที่เนื้อร้องแต่งโดย "ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ผบ.ทบ. และหัวหน้าคณะ คสช.ในตอนนั้น อันเป็นเหตุให้ทักษิณ ไม่มีแผ่นดินจะอยู่
ท่ามกลาง “ติ่งสรยุทธ” เข้ามาแสดงความเห็นเหน็บตามลูกพี่ว่า คลิปนี้สุดโหด
ว่ากันไปตามทำนอง ดูละครแห่งความย้อนแย้งมาพีคเอาตอนที่
กรมราชทัณฑ์ แถลงขั้นตอนหลังรับตัว “ทักษิณ”เข้าเรือนจำ ดำเนินการตามมาตรการผู้ต้องขังเข้าใหม่ ทำทะเบียนประวัติ ตรวจสุขภาพ โดยแพทย์ของกรมราชทัณฑ์
ปรากฏว่า เบื้องต้นทักษิณอยู่ในชั้นเป็นนักโทษกลุ่มเปราะบาง มีโรคประจำตัว ต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง พบประวัติเป็นโรคหัวใจ ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด และมีปัญหาปอด เนื่องจากมีประวัติเป็นปอดอักเสบรุนแรง จากการติดโควิด มีภาวะผังผืดในปอด ส่งผลทำให้มีความผิดปกติต่อการแลกเปลี่ยนออกซิเจน ทำให้มีอาการเหนื่อยง่าย โดยทั้ง 2 โรค ต้องได้รับการดูแลโดยทีมแพทย์
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีความดันโลหิตสูง และภาวะเสื่อมตามอายุ กระดูกสันหลังเสื่อมในหลายระดับ ตรวจ MRI พบมีการกดทับเส้นประสาท ส่งผลให้ปวดเรื้อรัง การเดินทรงตัวผิดปกติ
ทั้งนี้ เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ได้แยกคุมขังเดี่ยวนายทักษิณ ที่แดน 7 ซึ่งเป็นสถานพยาบาลเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง
เรียกว่าโรครุมเร้าเปลี่ยนทักษิณเป็นคนละคน จากที่เคยมีโพสต์จากลูกๆ พาพ่อตรวจสุขภาพว่า แข็งแรงดี แถมวันดีคืนดีที่ผ่านมา เจ้าตัวก็ชอบโชว์คลิปชกมวย และการออกกำลังกายอยู่ตลอดเวลา
ไม่กี่วันก่อนยังฟิตปั๋ง มาวันนี้กลับโรคเยอะ ทั้งหลายทั้งปวง มันก็เลยมีดรามาขึ้นมา ตามด้วยทัวร์อีกหลายขบวนด้วยประการฉะนี้
