“ทักษิณ” ถึงศาลฎีกา สนามหลวง ถูกคุมตัวเข้าห้องพิจารณาคดี เพื่อออกหมายจำคุก 3 คดี ที่ศาลตัดสินถึงที่สุด ประกอบด้วย คดีเอ็กซิมแบงก์-หวยบนดิน-แก้สัมปทานเอื้อประโยชน์ชินคอร์ป รวมโทษจำคุก 8 ปี
วันนี้ (22 ส.ค.) หลังจาก นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับมาประเทศไทย ถึงสนามบินดอนเมือง ตั้งแต่ช่วงเช้า หลังเสร็จสิ้นกระบวนการที่สนามบินดอนเมือง นายทักษิณ ถูกนำตัวมาถึงยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยเมื่อเวลา 10.25 น.ขบวนรถเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายทักษิณ มาถึงศาลฎีกา ที่สนามหลวง ท่ามกลางประชาชนและคนเสื้อแดงเดินทางมารอต้อนรับหน้าศาล จากนั้นเจ้าหน้าที่จะนำตัวเข้าสู่ห้องพิจารณาคดี ซึ่งห้องดังกล่าวจะอนุญาตให้เพียงฝ่ายโจทก์และญาติของจำเลยเพียงเท่านั้น จะไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปร่วมรับฟัง เนื่องจากมาตรการการรักษาความปลอดภัย
สำหรับคดีที่ นายทักษิณ ชินวัตร ต้องรับโทษตอนนี้มีทั้งสิ้น 3 คดี
1. คดีทุจริตปล่อยกู้เอ็กซิมแบงก์ ตัดสินเป็นคดีแรกเมื่อ 23 เม.ย. 2562 เป็นคดีหมายเลขแดงที่ อม. 4/2551 ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 3 ปี
2. คดีหวยบนดิน ตัดสินเป็นคดีที่ 2 เมื่อ 6 มิ.ย. 2562 เป็นคดีหมายเลขแดงที่ อม.10/2552 ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 2 ปี ไม่ได้ขอให้นับโทษต่อจากคดีเอ็กซิมแบงก์
3. คดีแก้สัมปทานเอื้อประโยชน์ให้ชินคอร์ป ตัดสินเป็นคดีที่ 3 เมื่อ 30 ก.ค. 2563 เป็นคดีหมายเลขแดงที่ อม.5/2551 ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 5 ปี และให้นับโทษต่อจากคดี เอ็กซิมแบงก์ (คดีที่ 1) และหวยบนดิน (คดีที่ 2) เนื่องจากคดีหวยบนดิน ไม่ได้มีการให้นับโทษต่อจากคดีเอ็กซิมแบงก์
คดีเอ็กซิมแบงก์กับคดีหวยบนดิน จึงจะนับโทษซ้อนกันตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 22 ที่บัญญัติให้โทษจำคุกเริ่มตั้งแต่วันมีคำพิพากษา
ซึ่งวันที่ นายทักษิณ ชินวัตร กลับประเทศไทยวันนี้ ศาลจะออกหมายจำคุกคดีถึงที่สุด หรือหมายแดง ให้เริ่มนับโทษจำคุกในคดีเอ็กซิมแบงก์และหวยบนดิน ตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค. 2566 เป็นต้นไป พร้อมกันทั้ง 2 คดีเลย
ส่วนคดีชินคอร์ป ศาลฎีกาจะออกหมายจำคุกคดีถึงที่สุด หรือ หมายแดง ให้เริ่มนับโทษจำคุก หลังจากที่รับโทษในคดีเอ็กซิมแบงก์และคดีหวยบนดินเสร็จสิ้นแล้ว
รวมแล้ว จำคุก 3 คดี เป็นระยะเวลา 8 ปี ( 3 ปี (คดีที่ 1= 3 ปี , คดีที่ 2 = 2 ปี นับโทษซ้อนกัน ) +5 ปี) โดยคดีที่ 1 กับ 2 นับโทษซ้อนกัน ส่วนคดีที่ 3 รอนับต่อหลังจากรับโทษคดี 1 และ 2 เสร็จสิ้นแล้ว