“อนุทิน” มั่นใจโหวต “เศรษฐา” นั่งนายกฯ ราบรื่น ยอมรับยื่นเงื่อนไขขอนั่งกระทรวงเดิม ย้ำเชื่อใจ “เพื่อไทย” จะเคลียร์ทุกพรรค หาทางออกได้ ขออย่าโยง “ทักษิณ” กลับบ้าน ที่มารัฐบาลสลายสีเสื้อ ชี้เป็นเรื่องดี พรรคคนละขั้วมาจับมือทำงานเพื่อบ้านเมือง
เมื่อเวลา 16.00น. วันที่ 21 ส.ค. ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมพรรคถึงความคืบหน้าการแบ่งโควตารัฐมนตรีที่ภูมิใจไทยได้จำนวน 8 กระทรวง ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการหารือ ซึ่งมีการพูดคุยกับพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลด้วยความเข้าใจถึงออกมาเป็นแถลงการณ์ร่วมกันในวันนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลักการไม่มีข้อจำกัดกระทรวงเดิมใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มี ไม่มีข้อจำกัด และยอมรับว่าได้มีการพูดคุย พร้อมยื่นข้อเสนอเรื่องการทำงานต่อกระทรวงเดิมไป แต่สุดท้ายต้องมีการหารือกันในพรรคร่วมรัฐบาล โดยพรรคแกนนำคือพรรคเพื่อไทยไปหารืออีกครั้ง คงต้องใช้เวลา ทุกอย่างต้องเชื่อใจกัน เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหา เพราะถ้ามีปัญหาจะไม่มีแถลงการณ์ในวันนี้
เมื่อถามว่า จำเป็นต้องมีความชัดเจนก่อนเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวย้ำว่า “เราต้องเชื่อใจกันจะทำงานด้วยกันต้องเชื่อใจกันในการบริหารบ้านเมือง ถ้าเราไม่เชื่อใจกันเราก็ไม่ควรแม้กระทั่งไปร่วมแสดงเจตจำนงในการทำงานด้วยกัน”
เมื่อถามย้ำว่า ส่วนที่บอกว่าต้องเชื่อใจกันคือพรรคเพื่อไทยรับรู้แล้วและโอเคตามนั้นใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ในระดับหนึ่ง
เมื่อถามว่า จะได้กระทรวงเดิมหรือไม่นายอนุทิน กล่าวว่า อยู่ที่เงื่อนไขกับพรรคอื่นด้วย แต่เท่าที่คุยในระดับหนึ่ง เชื่อว่าในฐานะพรรคแกนนำและผู้บริหารพรรคเพื่อไทยจะมีทางออกที่ดี ที่ทำให้พรรคภูมิใจไทย ไม่มีปัญหาใดๆ ในการร่วมรัฐบาล
เมื่อถามถึง โผครม.ที่หลุดออกมาว่าพรรคภูมิใจไทยได้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬานั้นนายอนุทิน กล่าวว่า อย่าพึ่งคุยในเรื่องนี้เลยเพราะต้องผ่านการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีก่อน แล้วตำแหน่งต่างๆเหล่านี้เป็นเรื่องของการโปรดเกล้าฯ ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นผู้ทูลเกล้าฯถวาย ให้ทรงลงพระปรมาภิไธย จึงเป็นเรื่องไม่บังควรที่จะมาพูดก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 22 ส.ค.นี้ จะราบรื่นจะได้นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯคนที่ 30 หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่คุยกับพรรคแกนนำและพรรคร่วมอื่นๆคิดว่าน่าจะราบรื่นทุกคนมีความมั่นใจ จากนั้นผู้สื่อข่าวถามย้ำว่ารวมถึงเสียงส.ว. ด้วยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ราบรื่นก็ต้องราบรื่นทั้งหมดทั้ง สส.ที่มี314 เสียง และยังขาดอยู่ 61 เสียง โดยมั่นใจว่ามาถึงจุดนี้ สว.ที่มีความกังวลเรื่อง 112 ก็ไม่มีแล้ว เรื่องรัฐบาลเสียงข้างน้อยก็ไม่มี และพรรคก้าวไกลก็ไม่ได้อยู่ร่วมรัฐบาลแล้ว ก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อถามว่า จะไม่มีผิดแผน มาถึงพรรคอันดับ 3 คือพรรคภูมิใจไทยใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราต้องทำให้ความถูกต้อง ความเหมาะสม มารยาทต่างๆทุกอย่างรวมกัน ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามกติกามารยาท มันก็จะไม่มีปัญหาอะไรต่อไปอีก ซึ่งพรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคอันดับ 3 ตนได้พูดมาตลอด และได้ทำตามสโลแกน “พูดแล้วทำ” ไม่ไปแย่งใครจัดตั้งรัฐบาล แม้ว่าจะมีแรงยุแรงส่งยังไงก็ตาม เราก็พยายามที่จะรักษากติกามารยาททางการเมืองให้มากที่สุด
เมื่อถามถึง การแถลงข่าวร่วมจัดตั้งรัฐบาลมีการหารือถึงนโยบายของพรรคภูมิใจไทยเรื่องกัญชาทางการแพทย์อย่างไร ในเชิงรูปธรรม นายอนุทิน กล่าววส่า ขณะนี้กฎหมายยังค้างอยู่แสดงว่าพรรคภูมิใจไทยก็ยังยืนยันว่านโยบายกัญชาทางการแพทย์เพื่อสุขภาพทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นทำให้ประชาชนที่เจ็บป่วยด้วยโรคหลายโรคมีทางเลือกในการรักษา เรายังยืนยันในเจตนารมย์ของเรา ซึ่งทุกพรรคในพรรคร่วมรัฐบาลไม่มีใครโต้แย้งหรือซักถามใดๆ แต่เราเน้นว่าไม่ใช่กัญชาเสรีหรือเพื่อสันทนาการ นันทนาการแต่อย่างใด แต่เพื่อสุขภาพทำให้เศรษฐกิจแข็งแรงเป็นปัจจัยเชิงบวก
เมื่อถามว่า จะสามารถพูดได้หรือไม่ว่ารัฐบาลชุดใหม่เป็น “รัฐบาลสลายสีเสื้อการเมือง” ได้อย่างสมบูรณ์แบบเพราะนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีก็จะเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 22 ส.ค.นี้ ด้วย นายอนุทิน กล่าวว่า อย่าไปผูกกัน เพราะการรวมของ 11 พรรคการเมืองถ้าจะมองแบบในแง่ดี คือ พรรคเหล่านี้เคยมีการทำงานอยู่คนละฝ่ายเมื่อมีความจำเป็นต้องมารวมทำงานกันเพื่อประเทศชาติความแตกแยกความขัดแย้งต่างๆ ที่ไม่ เกี่ยวข้องกับเรื่องผิดกฎหมาย การทุจริต คดโกงอะไร ในเรื่องความคิดทางการเมืองที่คิดว่าชาตินี้ จะไม่เผาผีกันแล้วนั้นก็อาจจะทำให้ความรู้สึกเกิดความเป็นหนึ่งเดียวกัน ก็น่าจะเกิดขึ้นได้ ทุกคนทำตามหน้าที่และบทบาทก็มี เมื่อตรวจสอบก็ตรวจสอบอย่างเต็มที่ เวลาทำงานก็ทำอย่างเต็มที่ แต่ต้องไม่ทำผิดกฎหมายไม่ทำอะไรด้วยเจตนาที่ทุจริต ไม่สุจริต ก็ทำงานกันได้เพื่อบ้านเพื่อเมือง
ส่วนรายงานข่าวที่ว่านายทักษิณจะกลับในวันที่ 22 ส.ค.นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ตนมองว่าท่าน คงมีความพร้อมและมั่นใจว่าจะได้รับความยุติธรรม เข้ามาตามขั้นตอนกฎหมายทุกประการ ปฏิบัติตามระเบียบต่างๆซึ่งกระทรวงยุติธรรมต้องดำเนินการ