“ชัยธวัช” ยัน ก้าวไกลไม่โหวตนายกฯ รัฐบาลผสมพันธุ์ข้ามขั้ว เกรงใจทุกอำนาจยกเว้นประชาชน มองไม่สามารถผลักดันวาระก้าวหน้าได้ รอดูหน้าตารัฐบาลก่อนเคาะโหวต “ไม่เห็นชอบหรืองดออกเสียง” ยืนยันไม่เสนอชื่อ “พิธา” แข่ง
วันนี้ (15 ส.ค.) นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคก้าวไกล แถลงข่าวยืนยันมติพรรคก้าวไกล ระบุว่า ในที่ประชุม ส.ส. ของพรรคก้าวไกล มีมติของพรรค จะไม่โหวตให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของรัฐบาลผสมพันธุ์ข้ามขั้ว ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ เพราะพรรคก้าวไกล ต้องการแสดงท่าทีว่า เราไม่ต้องการมีส่วนร่วมในการจัดตั้งรัฐบาล ในลักษณะที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
ประการที่หนึ่ง เราเห็นว่า การจัดตั้งรัฐบาลที่เกิดขึ้นอยู่นี้ เป็นการจัดตั้งรัฐบาลที่ขัดต่อเจตนารมณ์ ขัดต่อเจตจำนงของพี่น้องประชาชน ที่ได้แสดงออกผ่านการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566
ประการที่สอง การที่จะให้ ส.ส.ของพรรคก้าวไกล โหวตให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของรัฐบาลที่กำลังจัดตั้งอยู่นี้ ไม่ใช่การปิดสวิตช์ ส.ว. แต่เป็นการเดินตาม ส.ว. เดินตามความต้องการของ ส.ว. ในการต้องการบิดเบือนผลการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นที่ชัดเจนว่า ที่ผ่านมา ส.ว.จำนวนมาก และพรรคขั้วรัฐบาลเดิม ต้องการปิดสวิตช์ก้าวไกล ที่ชนะการเลือกตั้ง
ประการที่สาม เราเห็นว่า การจัดตั้งรัฐบาลแบบนี้ ก็คือ การจัดตั้งรัฐบาลที่เกรงใจผู้มีอำนาจทุกฝ่าย ยกเว้นการเกรงใจประชาชน จะไม่สามารถผลักดันวาระที่ก้าวหน้า และทำเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน ได้อย่างแท้จริง
เมื่อถามว่า มติดังกล่าว เป็นเอกฉันท์หรือไม่ นายชัยธวัช ระบุว่า เป็นเอกฉันท์ ส่วน ส.ส.ที่ไปสำรวจความเห็นสะท้อนว่าอย่างไรบ้างนั้น ส.ส. เขตได้สะท้อนว่า ทางประชาชนทั้งในออนไลน์และที่ไปพบปะในพื้นที่
ไปทางเดียวกันว่าไม่เห็นด้วยกับการจัดตั้งรัฐบาลที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้
เมื่อถามว่า มีแกนนำ เช่น นายพิธา อาจไม่ได้เป็นฝ่ายค้าน มีนัยยะอะไรหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ต้องดูว่าสถานการณ์การเลือกนายกรัฐมนตรีและการจัดตั้งรัฐบาลหลังจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป อาจจะไม่ได้จบภายในครั้งเดียว
เมื่อถามว่า ยังมีความเชื่อว่า พรรคเพื่อไทยอาจจะโหวตไม่ผ่านในการโหวตครั้งหน้าใช่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่เราพิจารณากัน ประเด็นสำคัญคือเรากำลังพิจารณาวาระที่กำลังจะถึง คือ การโหวตนายกรัฐมนตรี เรื่องอื่นคงเป็นเรื่องอนาคต ย้ำว่าเสียงในที่ประชุมเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย นายชัยธวัช กล่าวว่า การจัดตั้งรัฐบาลที่เกรงใจทุกคนยกเว้นประชาชน จะไม่สามารถผลักดันวาระที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชนได้อย่างแท้จริง
เมื่อถามว่า ใช้คำว่ารัฐบาลข้ามขั้ว หมายถึงจะไม่กลับมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยอีกแล้วหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า เป็นความเห็นในการจัดตั้งรัฐบาลตอนนี้ เรื่องข้ามขั้วหมายถึงพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ได้แสดงออกผ่านการเลือกตั้งอย่างชัดเจนแล้ว ว่าต้องการพลิกขั้วรัฐบาล พรรคที่ชนะอันดับ 1 และ 2 เป็นแกนนำพรรคฝ่ายค้านเดิม เขาต้องการพรรคฝ่ายค้านเดิมมาบริหารประเทศแทน แต่ตอนนี้มันไม่เป็นแบบนั้น ไม่เป็นไปตามเจตจำนง
เมื่อถามว่า ในฐานะคนนอก มองแนวคิดเรื่องการแบ่งกระทรวงก่อนโหวตนายกฯ อย่างไรบ้าง นายชัยธวัช ระบุว่า เรามีการคุยกันอยู่เหมือนกัน ว่าในความคลุมเครือที่ไม่ได้มีการประกาศชัดเจนว่าจะมีพรรคการเมืองไหนบ้างเข้าร่วมรัฐบาล อันนี้ยิ่งเพิ่มความไม่ไว้วางใจแก่ประชาชน
เมื่อถามว่า หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าสามารถเสนอชื่อนายพิธา ซ้ำได้ จะมีการเสนอแข่งกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า เป็นคนละประเด็น ตนคิดว่าเรื่องการเสนอชื่อซ้ำได้ เราเห็นด้วยอยู่แล้ว เพราะเป็นหลักการที่ควรเป็น ต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้อง พรรคก้าวไกลก็จะเสนอญัตติให้ทบทวนมติรัฐสภาเหมือนกัน
“เราไม่เห็นด้วยที่จะให้ศาลรัฐธรรมนูญมาวินิจฉัย ว่ารัฐสภาทำอะไรได้ หรือไม่ได้”
เมื่อถามว่า จะมีการเสนอชื่อนายพิธาแข่ง ในการโหวตนายกฯครั้งหน้าหรือไม่ เพราะญัตติได้เปลี่ยนไปแล้ว นายชัยธวัช ยืนยันว่า จะไม่มีการเสนอชื่อแข่ง
เมื่อถามว่า ประเมินฉากทัศน์ไว้กี่แบบ นายชัยธวัช ระบุว่า ก็คงมี 2 ทาง คือ ผ่านและไม่ผ่าน ส่วนจะเตรียมตัวอย่างไรนั้น เป็นเรื่องของพรรคจัดตั้งรัฐบาล
เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกล ปิดประตูต่อรอง เรื่องการโหวตนายกรัฐมนตรีกับพรรคเพื่อไทยแล้วหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า อย่างที่ย้ำไป เหตุผลอย่างหนึ่งที่จะไม่โหวตให้แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย เพราะเราไม่เชื่อว่าการจัดตั้งรัฐบาลในสภาพการณ์แบบนี้ จะสามารถผลักดันวาระของประชาชนที่ก้าวหน้าได้ ต่อให้มีการรับปากตกลงอะไรกัน ก็เชื่อว่าจะไม่มีผลอะไรในอนาคต ส่วนอะไรที่พรรคก้าวไกลเสนอไปแล้วเราไปเป็นฝ่ายค้าน และพี่น้องประชาชนสนับสนุนอย่างชัดเจน เราเชื่อว่าเสียงส่วนใหญ่ในสภา จะสนับสนุนด้วย ไม่จำเป็นต้องมีข้อตกลงอะไรกัน
เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลจะออกเสียงไม่เห็นชอบ หรืองดออกเสียง ในการโหวตนายกรัฐมนตรี นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการคุยกัน แต่ที่ชัดเจนคือจะไม่โหวตให้ ส่วนจะลงคะแนนว่าไม่เห็นชอบหรืองดออกเสียง ต้องไปดู เพราะมีรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาล
เมื่อถามว่า มีการหารือเรื่องการรับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านหรือไม่ นายชัยธวัช ระบุว่า ยังไม่มีการหารือเรื่องนี้ เป็นวาระที่จะพิจารณาหลังจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ รวมถึงเรื่องการจะให้นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ลาออกจากตำแหน่งรองประธานสภา คนที่ 1 ด้วย
เมื่อถามว่า องค์ประกอบที่จะโหวตไม่เห็นชอบหรืองดออกเสียง มีอะไรบ้าง นายชัยธวัช ยกตัวอย่างว่า จะพิจารณาจากหน้าตาในการจัดตั้งรัฐบาล เชื่อว่า หากมี 2 ลุง ส.ส.ส่วนใหญ่คงเสนอไม่เห็นชอบ แต่หากไม่มีก็อาจจะงดออกเสียง แต่วันนี้ยังไม่ลงรายละเอียด
เมื่อถามว่า อาจมีคำวิจารณ์ว่าตอนพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ พรรคเพื่อไทยยังโหวตให้ทั้งหมด นั้น นายชัยธวัช มองว่า เป็นคนละเงื่อนไขกัน ตอนนั้นเรามีความชอบธรรมในการจับมือจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน ตามเจตจำนงประชาชน คนละสภาพการณ์กัน แต่ตอนนี้เป็นการจัดตั้งรัฐบาลที่บิดเบือนเจตจำนงประชาชน ซึ่งถือเป็นหลักการใหญ่ อย่าลืมว่าข้อเสนอ เช่น ให้มีการปิดสวิตช์ ส.ว. เป็นข้อเสนอเพื่อให้เคารพผลการเลือกตั้ง
นายชัยธวัช ย้ำว่า ไม่ใช่การหักกันกับพรรคเพื่อไทย แต่เป็นการยืนบนหลักการที่ถูกต้อง
เมื่อถามว่า หลังจากที่ น.ส.แพทองธาร นำแกนนำพรรคเพื่อไทยมาคุยกับพรรคก้าวไกล ได้มีการคุยกันหลังจากนั้นหรือไม่ นายชัยธวัช เผยว่า ไม่ได้คุยกันอีก เพราะพรรคเพื่อไทยเห็นว่าเป็นเอกสิทธิ์ของพรรคก้าวไกลในการโหวตนายกรัฐมนตรี ส่วนจะมีการคุยหลังจากนี้หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า การพูดคุยกันเป็นเรื่องปกติ หากสถานการณ์การเมืองเปลี่ยนแปลงอาจมีการพูดคุย หรือหากไปเปลี่ยน และทำงานอยู่คนละฝั่ง การแสวงหาความร่วมมือกันยังเป็นสิ่งที่เป็นไปได้