“ปดิพัทธ์” ภูมิใจบ้านเกิด “พิษณุโลก” มีคราฟท์เบียร์ตัวแรก ลองชิมลง Tiktok บอกรสชาติตรงปกโซเชียลแห่ถามพิกัดตามไปซื้อ ขณะที่ฝ่ายเห็นต่างติง ห้ามโพสต์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ "ราเมศ" สอน ปดิพัทธ์ เป็นผู้นำต้องระมัดระวังตัว โพสต์เบียร์ เสี่ยงผิดกฎหมาย ห้ามโฆษณา
วันนี้ (14 ส.ค.2566) นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 โพสต์ภาพถือกระป๋องคราฟท์เบียร์ พร้อมข้อความระบุว่า
เอาแล้วๆๆๆๆ พิษณุโลกมีคราฟท์เบียร์ตัวแรกอย่างเป็นทางการแล้วครับ
เป็นของดีพิดโลกนอกจากกล้วยตากและหมี่ซั่วครับ
นอกจากนี้ นายปดิพัทธ์ ยังโพสต์คลิปรีวิวลงบน Tiktok ระบุว่า เอาแล้วชาวพิษณุโลก นี่คือคราฟท์เบียร์ตัวแรกของจังหวัดพิษณุโลก ชื่อ Phitlok Session IPA เดี๋ยวเราลองมาดูกันว่ารสชาติเป็นอย่างไรนะครับ พร้อมดมและเล่าถึงรสชาติ ก็จะมีกลิ่นสดชื่นของผลไม้ และย้ำว่ารสชาติตรงปก พรีเซ็นต์ความเป็นพิษณุโลก
ทำให้มีผู้มาแสดงความเห็นชื่นชมทั้งในเฟซบุ๊กและ Tiktok ระบุว่าอยากอุดหนุนและขอพิกัดเพื่อไปซื้อตามจำนวนมาก ขณะที่บางส่วนแสดงความเห็นต่าง ระบุว่า ตามกฎหมายห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยิ่งโพสต์เชิญชวนยิ่งผิดเต็มๆ
ด้านนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีที่นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ได้มีการโพสต์ภาพคราฟเบียร์ทางโซเชี่ยลว่าหลักการในเรื่องนี้ มี พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ควบคุมในเรื่องการโฆษณาไว้ มีเจตนารมณ์เพื่อปกป้องสังคมไม่ให้มีการโฆษณา มาตรา 32 ระบุใจความสำคัญไว้ 2 กรณี คือ ห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อประโยชน์ในทางการค้า คือการโฆษณาเสนอขายหรือส่งเสริมการขายกฎหมายห้าม
และอีกกรณีคือห้ามแสดงชื่อหรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พร้อมกับการมีข้อความหรือพฤติการณ์ที่เป็นการอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจให้คนอื่นอยากจะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ดังกล่าว
นี่คือหลักกฎหมายใช้บังคับกับทุกคน
นายราเมศกล่าวต่อในส่วนของ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฏร ว่า จากข้อเท็จจริงมีประเด็นต้องวินิจฉัยว่า มีการโพสต์แสดงชื่อแอลกอฮอล์จริงหรือไม่ ตอบได้ตรงกันคือ มีการโพสต์ภาพคราฟเบียร์จริงและเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แน่นอน
ประการต่อมาที่ต้องวินิจฉัยต่อคือ “เอาแล้วๆๆๆๆพิษณุโลกมีคราฟท์เบียร์ตัวแรกอย่างเป็นทางการแล้วครับ เป็นของดีพิดโลก……”
ถือว่าเป็นข้อความหรือพฤติการณ์ที่เป็นการอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจให้คนอื่นอยากจะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือไม่ ตอบได้ตรงกันอีกเช่นกันคือ มีข้อความที่อวดอ้างชักจูงใจให้คนอื่นดื่มเพราะบอกว่าเป็นของดี สื่อสารออกไปเพื่อให้คนอื่นอยากดื่ม เข้าองค์ประกอบกฎหมายทุกประการ ต้องดำเนินคดีเพื่อให้กระบวนการยุติธรรมตัดสินตามกฎหมาย ผิดถูกก็ว่ากันไปตามข้อเท็จจริง
นายราเมศกล่าวต่อว่า นายปดิพัทธ์ สันติภาดา เป็นถึงรองประธานสภาผู้แทนราษฏร การปฏิบัติตนตามหลักกฎหมายบ้านเมืองคือสิ่งสำคัญ เรื่องนี้ก็ให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ความเห็นของตนก็แค่ความเห็นส่วนตัว อาจจะมีใครเห็นต่างจากนี้ก็ได้ แต่นายปดิพัทธ์ เป็นบุคคลสาธารณะตนในฐานะประชาชนคนหนึ่งมีสิทธิที่จะติติงได้ว่า”ท่านผู้ทรงเกียรติไม่ควรทำสิ่งนี้” จะมีแนวในการแสดงออกอย่างไรก็ควรคำนึงถึงสังคมและกฎเกณฑ์กติกาบ้าง เชื่อว่าเรื่องนี้จะเป็นประเด็นในวันสองวันนี้แน่นอน