“โย พงศธร” มั่นใจ ชนะเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 ระยอง บอกไม่มีปัจจัยอะไรทำให้แพ้ โวรู้จักเขาชะเมา-แกลง เป็นอย่างดี ชี้ จัดตั้ง รบ.ครั้งนี้ ไม่เห็นหัว ปชช. ย้ำ แม้ก้าวไกลไม่ได้เป็น แต่เสียงในสภา 151 เสียง เสนอ กม.ที่เป็นประโยชน์ได้
วันนี้ (13 ส.ค.) นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ หรือ โย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 จ.ระยอง กล่าวถึงการเปิดตัวเป็นว่าที่ผู้สมัครลงเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ว่า ตนทำงานมาตั้งแต่ยุคบุกเบิก โดยเฉพาะพื้นที่ภาคตะวันออก ซึ่งมีการสร้างทีมเครือข่ายจังหวัดระยอง ช่วยเหลือทุกจังหวัดในภาคตะวันออก โดยการทำงานเบื้องหลัง ช่วยคิดยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง และช่วยผู้สมัคร ส.ส.เขตวางแผนมาโดยตลอด และการเลือกตั้งที่ผ่านมา ได้ลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่ออันดับที่ 52
นายพงศธร กล่าวว่า ตอนนี้พร้อมมาก เพราะรู้จักพื้นที่อยู่แล้ว ตอนนี้ที่ นายนครชัย ขุนณรงค์ อดีต .สส.เขตนี้ลงสมัคร ตนก็ช่วยดูยุทธศาสตร์ รู้ดีว่าพื้นที่ไหนเป็นอย่างไร รู้ว่าคะแนนพื้นที่ไหนดี และไม่ดีบ้าง ทำให้รอบนี้เห็นโอกาสค่อนข้างเยอะ จากกระแสของการลงพื้นที่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คนให้กำลังใจจำนวนมาก เพื่อให้กลับมารักษาตำแหน่ง ส.ส.ของพรรคก้าวไกล และมองว่า ไม่ใช่แค่เรื่องตำแหน่ง ส.ส.เท่านั้น แต่ตนยังเห็นถึงความหวัง ความฝัน ของพี่น้องประชาชนชาวอำเภอแกลง และเขาชะเมา ที่อยากเห็นการเมืองแบบพรรคก้าวไกล อย่างตรงไปตรงมา รักษาคำพูด
เมื่อถามว่า อะไรเป็นจุดเด่นที่จะทำให้ประชาชนเลือกนั้น นายพงศธร กล่าวว่า ตนทำงานในพื้นที่มาก่อน และรู้จักทุกเขตทุกพื้นที่ในจังหวัดระยอง และตนมีความสัมพันธ์กับอำเภิเขาชะเมาตั้งแต่เมื่อ 22 ปีก่อน ตอนที่มีกรณีโรงโม่หิน ซึ่งตอนนั้นมีการระเบิดเขา และมีชาวบ้านถูกยิงเสียชีวิต ซึ่งเหตุการณ์นั้นทำให้ตนรู้สึกว่าบ้านเมืองบิดเบี้ยว ดังนั้น ตนจึงทำงานการเมืองตั้งแต่เป็นนักศึกษา และต่อต้านรัฐประหารตั้งแต่เมื่อปี 2549 จนมาทำงานการเมืองตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ และพรรคก้าวไกล ลงทุกพื้นที่ ได้รับเรื่องร้องเรียนเกือบทุกเรื่อง ทั้งเรื่องน้ำท่วม สถานที่ท่องเที่ยวและประมง ซึ่งทุกๆ เรื่อง ตนอยู่เบื้องหลังการทำงานมาโดยตลอด ดังนั้น จึงเป็นคนที่รู้ดีมากที่สุดของพรรค และสามารถทำงานได้ต่อเนื่องทันที โดยจะยังมี นายนครชัย หรือ ไอซ์ ช่วยงานอยู่ รวมถึง ทีม ส.ส.ทีมเดิม
นายพงศธร กล่าวอีกว่า ตนมั่นใจมากที่ชนะการเลือกตั้ง ไม่มีปัจจัยอะไรที่จะทำให้แพ้
เมื่อถามว่า ผลการเลือกตั้งซ่อมจะสะท้อนภาพการเมืองใหญ่ได้หรือไม่ นายพงศธร กล่าวว่า แน่นอน เพราะอยู่ในช่วงจัดตั้งรัฐบาล และจากการที่ตนไปสัมผัสประชาชน รู้สึกเหมือนกันว่า การจัดตั้งรัฐบาลที่เป็นอยู่ไม่เห็นหัวประชาชน เสียงประชาชนไม่มีความหมาย ดังนั้น การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการสะท้อนเสียงของประชาชนที่จะส่งเสียงถึงทุกคนในประเทศ ว่า ประชาชนคือผู้ทรงอำนาจสูงสุดในประเทศนี้
ทั้งนี้ ไม่รู้สึกกังวลว่าคนจะเปลี่ยนใจไม่เลือกก้าวไกล เพราะพรรคก้าวไกลพิสูจน์แล้วว่า การทำงานฝ่ายค้านก็ทำงานได้ดี โดยเฉพาะนโยบายของพรรค ก็เป็นอำนาจนิติบัญญัติที่พรรคก้าวไกลมีเสียง 151 เสียง ที่จะเสนอกฎหมายเข้าสภาได้ ดังนั้น ไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ก็จะเสนอกฎหมายที่เกี่ยวกับนโยบายของพรรคเข้าสู่สภาแน่ๆ และประชาชนจะได้เห็นว่าพรรคก่าวไกล พร้อมยกมือสนับสนุนกฎหมายที่เป็นประโยชน์กับประชาชน และจะได้เห็นว่า ส.ส.พรรคไหนบ้างที่จะสนับสนันกฎหมายที่เป็นประโยชน์กับประชาชน