นายธันย์ชนน ศรีอัษฎาวุธกุล ผู้ช่วยรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล และอดีตผู้สมัคร ส.ก. เขตดุสิต พรรคก้าวไกล ได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชนถึงกรณีที่ทางกรุงเทพมหานคร มีโครงการเปลี่ยนหลอดไฟจากหลอดเอชพีเอส (High Pressure Sodium) ซึ่งมีอายุการ ใช้งานประมาณ 2 ปี มาเป็นหลอดไฟแอลอีดี (Light Emitting Diode) พร้อมระบบติดตามการทำงานของดวงโคมไฟฟ้า (IOT) เพื่อช่วยประหยัดพลังงาน จำนวน 25,000 ดวง และจะมีการเปลี่ยนเพิ่มเติมอีก 45,000 ในอนาคต โดยในเขตดุสิตที่ตนได้รับการประสานมาจากประชาชน ได้รับการร้องเรียนว่ายังไม่ได้มีการเปลี่ยนหลอดไฟ รวมถึงมีไฟส่องสว่างที่ชำรุดอยู่หลายจุดด้วย
นายธันย์ชนน ระบุว่า จากที่ตนได้ทราบมา โครงการดังกล่าวได้รับการอนุมัติมาแล้วในส่วนของพื้นที่เขตดุสิต พร้อมทั้งมีงบประมาณเพื่อการดำเนินการมาแล้ว ซึ่งจากข่าวสารที่มีการเผยแพร่มาก่อนหน้านี้ กรอบระยะเวลาการดำเนินการควรจะเสร็จสิ้นภายในเดือนเมษายน แต่ทว่าจนถึงปัจจุบัน เฉพาะในเขตพื้นที่ดุสิตที่ตนทราบมา ยังคงมีการดำเนินการเพียงบางส่วน บางพื้นที่เท่านั้น
นายธันย์ชนน ยังกล่าวต่อไปว่า ตนซึ่งได้รับการประสานร้องเรียนจากประชาชนในเขตดุสิตมาหลายราย ได้ส่งทีมงานลงสำรวจจุดติดตั้งไฟส่องสว่างในเขตพื้นที่ดุสิต ได้แก่ บริเวณก่อนข้ามสะพานซังฮี้ ชุมชนท่าน้ำสามเสน ชุมชนเสริมสุข ชุมชนมิตรอนันต์ ชุมชนบ้านพักองค์การทอผ้า ชุมชนตรอกต้นโพธิ์ ชุมชนวัดน้อยนพคุณ ชุมชนสุโขทัย9 ซอยสุจริต1 ชุมชนสุคันธาราม ชุมชนโซดา ชุมชนราชพัสดุ ชุมชนระนองกลาง ศรีย่านซอย3 แฟลตสิริสาร์ส ร่วมจิตต์2 สรรพาวุธนิเวศน์ ซอยพัฒนาสินทรัพย์ ฯลฯ รวม 31 ชุมชน 23 ซอย พบว่ายังมีไฟส่องสว่างที่ชำรุด ใช้การไม่ได้จำนวนมาก และมีจุดที่ยังคงใช้ไฟรุ่นเก่าแบบเอชพีเอสอยู่เป็นจำนวนมากถึง 871 ดวง ที่ยังไม่ได้รับการเปลี่ยนเป็นแบบแอลอีดี
ทั้งนี้ พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ใจกลางเมืองและเป็นย่านใกล้เคียงเขตพระราชฐาน ซึ่งมีความสำคัญ ทั้งในด้านกิจกรรมทางเศรษฐกิจและเป็นย่านที่อยู่อาศัยของประชาชนหลายชุมชน ในการนี้ ตนจึงขอวิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานเขต สำนักโยธา หรือหน่วยงานใดก็ตาม เข้ามาดูแลการเปลี่ยนและซ่อมบำรุงไฟส่องสว่างในพื้นที่ดุสิต ตามที่ตนได้กล่าวมาข้างต้นด้วย
“อย่างไรก็ตาม ผมต้องขอบคุณผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ที่มีโครงการนี้ขึ้นมา ซึ่งเป็นความจำเป็นสำหรับประชาชนที่ต้องสัญจรไปมาในยามค่ำคืน เป็นทั้งการเปลี่ยนและซ่อมแซมไฟส่องสว่างให้กับประชาชนที่มีความจำเป็นต้องใช้งานและเพื่อประหยัดรายจ่ายค่าไฟฟ้าของกรุงเทพมหานครฯ เป็นโครงการที่ดี แม้จะมีปัญหาความล่าช้าและการดำเนินการที่ยังไม่ทั่วถึงอยู่บ้างอย่างที่เล่าไปข้างต้น ซึ่งผมขอเป็นอีกแรงหนึ่งในการประสานความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ชี้จุดที่ยังต้องปรับปรุง ให้การดำเนินการเป็นไปอย่างทั่วถึงและให้เกิดประโยชน์สูงสุด” นายธันย์ชนน กล่าว