กกต.นัดถก กำหนดวันเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ระยอง เขต 3 พรุ่งนี้ พร้อมลุยเอาผิด ม.151 - เรียกชดใช้เลือกตั้ง “นครชัย” เผย ยอดร้องเรียนเลือกตั้ง 350 เรื่อง ย้ำจะเคลียร์เสร็จใน 1 ปี
วันนี้ (10 ส.ค.) นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. กล่าวถึงการเตรียมจัดเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ระยอง เขต 3 แทน นายนครชัย ขุนณรงค์ ส.ส.พรรคก้าวไกล ว่า หลังมีประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง ส.ส. ระยอง เขต 3 แทนตำแหน่งที่ว่างแล้ว กกต.ต้องประชุมภายใน 5 วัน ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (11 ส.ค.) กกต.จะประชุมเพื่อกำหนดวันเลือกตั้งและวันสมัครรับเลือกตั้ง เบื้องต้นสำนักงานจะเสนอให้ประกาศให้วันอาทิตย์ที่ 10 ก.ย. 66 เป็นวันเลือกตั้ง และวันสมัครรับเลือกตั้ง คือ 15-19 ส.ค.
ส่วนเรื่องการตั้งคณะกรรมการเพื่อเอาผิดอาญานายนครชัย ฐานรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิสมัครแต่ยังลงสมัครตามมาตรา 151 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. กกต.ได้มีการพูดุคยกันและขอให้ทางสำนักงานไปดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ รวมถึงค่าชดใช้ในการจัดการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งถ้าเรียกให้ชดใช้ตามกฎหมายเลือกตั้งอาจทำได้ลำบาก แต่อาจสามารถใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 ว่าด้วยการละเมิด
นายอิทธิพร ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนการทุจริตเลือกตั้ง นายอิทธิพร กล่าวว่า นับจากวันที่ปิดรับคำร้องเรียน พบว่า มีเรื่องร้องเรียนเข้ามาทั้งหมด 350 เรื่อง ถือว่าน้อยกว่าปี 2562 ซึ่งมีจำนวน 592 เรื่อง ขณะนี้ได้พิจารณาไปแล้วกว่า 50% โดยในระเบียบการสืบสวน ไต่สวนของ กกต.ได้มีการระบุระยะเวลาการพิจารณาคำร้องว่าต้องเสร็จสิ้นถึงขั้นทำคำวินิจฉัยภายใน 1 ปี และเร็วๆ นี้ จะออกประกาศระยะเวลาการดำเนินการเกี่ยวกับคำร้อง ซึ่งระบุไว้ชัดว่าต้องใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ ทั้งนี้ เรื่องร้องเรียนปี 2566 มีหลายประเด็น ส่วนใหญ่ เป็นมาตรา 73(1) ซึ่งเป็นเรื่องการซื้อเสียง ใส่ร้าย รวมถึงเรื่องหาเสียงหลอกลวง และเรื่องอื่นๆ เช่น ป้ายหาเสียง ซึ่งเป็นประเด็นที่ไม่ต่างจากที่มีการร้องเรียนเมื่อปี 2562
เมื่อถามถึงการร่วมรัฐบาลมีการออกมาระบุว่า นโยบายที่เคยหาเสียงไว้ ไม่จำเป็นต้องทำตามก็ได้ กกต.มองเรื่องนี้อย่างไร นายอิทธิพร กล่าวว่า นโยบายหาเสียงของพรรคการเมือง มาตรา 57 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง กำหนดไว้แล้วว่า พรรคการเมืองจะต้องดำเนินการอะไรบ้าง เมื่อถามต่อว่า ในการจัดตั้งรัฐบาลมีการระบุทำนองจะไม่ทำตามนโยบายที่ประกาศไว้ นายอิทธิพร กล่าวว่า หากไม่ทำตามที่หาเสียง ก็ต้องดูว่ามีคำร้องเข้ามาหรือไม่ ถ้ามี กกต.ก็มีหน้าที่พิจารณาว่าเป็นไปตามที่ร้องว่าเป็นการหลอกลวงหรือไม่ อย่างไร แต่ตอนนี้ยังไม่มี