“สนธิญา” อ้างต้องความเสมอภาค-เท่าเทียม ยื่นผู้ตรวจฯ จี้ส่งศาลรธน.วินิจฉัยส.ส.-ส.ว.ดื้อเสนอชื่อ"พิธา"โหวตเป็นนายกทั้งที่ กกต.ชี้ขาดคุณสมบัติ เข้าข่ายขัดรธน.หรือไม่
วันนี้(9 ส.ค. )นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ยื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดินขอให้พิจารณาและส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กรณีส.ส.พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล และพรรคร่วมจำนวน 8 พรรคการเมือง รวมถึงส.ว. รวม 314 คนเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล รับการโหวตเป็นนายกรัฐมนตรีต่อที่ประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 13 ก.ค. และ 19 ก.ค.เป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 159 และ 160 (6) หรือไม่
นายสนธิญา กล่าวว่า ที่ต้องมายื่นเรื่องดังกล่าว เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายพรชัย เทพปัญญา และนายบุญส่ง ชเลธร นักวิชาการได้มายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินและผู้ตรวจฯ ได้มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ข้อบังคับการประชุมรัฐสภา 2563 ข้อที่ 41 ที่ทำให้ไม่สามารถเสนอชื่อนายพิธา เพื่อรับการโหวตเป็นนายกรัฐมนตรีรอบสอง เพราะเป็นญัตติซ้ำ ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ จึงเห็นว่า เพื่อความเสมอภาค เท่าเทียม จึงขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 4 ขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่าการที่สมาชิกรัฐสภาทั้ง 314 คน เสนอชื่อนายพิธาเพื่อเข้ารับการโหวตเป็นนายกฯ ทั้งที่ขณะนั้นกกต.ได้มีมติแล้วว่า นายพิธาเป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้าม ไม่ให้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสส. ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3) และเป็นเหตุให้สมาชิกภาพสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) และส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย โดยประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็ได้มีการแจ้งเรื่องดังกล่าวต่อที่ประชุม นายพิธาก็รับทราบและเดินออกจากห้องประชุม แต่ยังคงมีการเสนอชื่อนายพิธา และตั้งหน้าตั้งตาดำเนินการโหวต ซึ่งรัฐธรรมนูญมาตรา 160 (6) เขียนไว้ชัดเจนว่า ผู้ที่จะเป็นรัฐมนตรีต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา98 จึงเห็นว่าการกระทำของส.ส.และส.ว.เหล่านั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 159 ประกอบ 160
“ประเด็นนี้ร้องเพื่อความเป็นธรรมของทั้ง 2 ฝ่าย เพราะก่อนหน้านี้ทั้งนายพรชัย และนายบุญส่ง ร้องว่า การกระทำของสมาชิกรัฐสภา โดยเฉพาะ สว. ที่มีมติว่า การเสนอชื่อนายพิธา รอบสองเป็นญัตติซ้ำ ทำไม่ได้ ผมก็ต้องมาร้องอีกฝ่ายหนึ่ง ที่เสนอชื่อนายพิธา ทั้งๆ ที่ขณะนั้นรู้กันหมดแล้วว่า กกต.ประกาศและส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานภาพของนายพิธา แต่ทั้ง ส.ส. และสว.ก็ยังคงเสนอชื่อนายพิธาโหวตในการประชุมทั้งวันที่ 13 และวันที่ 19 ก.ค. ดังนั้นเมื่อผู้ตรวจฯ ส่งศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่ 41 ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ผมก็ต้องการให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาและส่งเรื่องที่ผมยื่นวันนี้ ต่อศาลรัฐธรรมนูญด้วยเป็นการตรวจสอบทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อความเท่าเทียม” นายสนธิญา กล่าว และว่า ตามคำร้องได้มีการขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอต่อศาลสั่งให้สส.และ สว.ทั้ง 314 คนหยุดปฏิบัติหน้าที่ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติของการยื่นร้องในเรื่องลักษณะนี้
