รทสช.ติวเข้ม ส.ส.ก่อนประชุมสภา พรุ่งนี้ ด้าน “วิทยา” เชื่อการจัดตั้งรัฐบาลภายใต้การนำ “เพื่อไทย” ไม่สำเร็จง่ายๆ ลั่นพรรครวมไทยสร้างชาติ เสียงไม่แตก ไปไหนจะไปด้วยกันทั้งพรรค
วันนี้ (8 ส.ค.) เวลา 16.00 น.ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้ทำการประชุมคณะกรรมการประสานงาน (วิป) และ ส.ส. เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 9 สิงหาคมนี้ โดยมี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ผู้บริหารพรรค และ ส.ส.ของพรรคเข้าประชุมอย่างพร้อมเพรียง
นายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการประชุม ส.ส.พรรคตามปกติ โดยจะมีการประชุมทุกวันอังคาร เพื่อเตรียมการในการประชุมสภา ซึ่งประเด็นหลัก จะเป็นการติดตามตรวจสอบงบประมาณการจ่ายเงินของหน่วยงานต่างๆ และเรื่องของญัตติในสภา โดยเป็นการเตรียมความพร้อมของ ส.ส.ที่จะหารือเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน และ ส.ส.ที่จะหารือในสภา
ผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องการโหวตนายกรัฐมนตรี ว่า มีการหารือด้วยหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า เรื่องนี้ตนคิดว่าจะต้องรอศาลรัฐธรรมนูญก่อนว่าจะพิจารณาอย่างไรในวันที่ 16 ส.ค.นี้ ส่วนเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลก็เป็นเรื่องของพรรคที่เตรียมตัวจะเป็นรัฐบาล อย่างไรก็ตามตนคิดว่าในสัปดาห์หน้าก็น่าจะยังไม่สามารถทำอะไรได้ และจะต้องรอไปก่อน ส่วนแนวทางการจัดตั้งรัฐบาลตอนนี้เห็นว่าเป็นไปได้หมดทุกทาง ไม่ว่าจะเป็นสลับขั้ว หรือถอยกลับก็ทำได้หมด แต่คิดว่าช่วงนี้เว้นระยะไปก็จะเป็นการดีทั้งให้ผู้ที่เตรียมตั้งรัฐบาลได้เตรียมตัว และประชาชนก็จะได้พักด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดเห็นอย่างไรกับการที่พรรคภูมิใจไทยได้ไปหารือร่วมกับพรรคเพื่อไทย นายวิทยา กล่าวว่า สถานการณ์แบบนี้เห็นว่าไม่ใช่ครั้งแรก ครั้งก่อนที่ไปดื่มช็อกมินต์กัน ผ่านมาก็ไม่มีความคืบหน้า ครั้งนี้ก็น่าจะเหมือนเดิม เพราะเห็นว่ามีแค่ 212 เสียงจึงไม่น่าจะใช่ เพราะการจะตั้งรัฐบาลได้ จะต้องมีการพูดเรื่องนโยบายเงื่อนไขให้จบ ถ้าไม่คุยแล้วมาบอกว่าจะตั้งรัฐบาลร่วมกันจึงคิดว่าไม่น่าจะสามารถจัดตั้งได้
นายวิทยา กล่าวถึงการตัดสินใจของพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า พรรคจะต้องรอสัญญาณจากหัวหน้าพรรคก่อน แต่ตอนนี้หัวหน้าพรรคยังไม่ได้ส่งสัญญาณอะไร และยืนยันว่าพรรครวมไทยสร้างชาติมี 36 เสียง ไม่มีเสียงแตกเพราะทุกคนหวังว่า จะทำพรรครวมไทยสร้างชาติให้เป็นสถาบันพรรคการเมือง ถ้าจะไปไหนก็จะต้องไปทั้งพรรค และเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยก็มีแนวคิดเป็นสถาบันพรรคการเมืองเช่นกัน คงไม่คิดว่าจะมาล้วงคนของชาวบ้านไปเหมือนกัน