“บิ๊กตู่” ลั่นไม่มีปัญหากับ “บิ๊กป้อม” บอกไม่ใช่เรื่องแปลกลาประชุม ครม. ติงม็อบเห็นต่างอย่าทำนอกกรอบ กม. ส่งผลเสียกับประเทศ ปัดแสดงความเห็น “เพื่อไทย” จับมือ “ภูมิใจไทย” ย้อนถามสื่อคิดอย่างไร พอเปลี่ยนรัฐบาลมีการแก้รัฐธรรมนูญ
เมื่อเวลา 12.25 น. วันที่ 8 ส.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เรื่องดีๆ มีเยอะแยะ ก็ขอให้ช่วยกันทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจ และเรื่องบางเรื่องที่จบไปแล้ว อย่างเช่น เหมืองทองอัครา ก็ขอร้องว่า อย่านำเอาขึ้นมาใหม่เลย เพราะเราเองก็สามารถทำให้ประเทศไทยผลิตทองคำครบวงจรไปแล้ว และมีการชี้แจงกันไปแล้วจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการประชุม ครม.วันเดียวกันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไม่เข้าร่วมประชุม ครม.ทั้งที่เข้ามาปฏิบัติภารกิจในทำเนียบรัฐบาล มีสิ่งผิดปกติอะไรหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้อนถามว่า “มีอะไรเล่า ไม่มีๆ ก็ขออย่าให้มันมีก็แล้วกัน ผมไม่มีอะไรกับท่าน และไม่มีแปลกหรอก หลายคนก็ลาประชุม ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรอยู่แล้ว และก็มีคณะทำงานเข้าร่วมประชุมแทน วันนี้ก็ลาตั้งหลายคน”
เมื่อถามว่า ในฐานะรัฐบาลรักษาการขณะนี้มีปัญหากลุ่มผู้ชุมนุมที่เห็นต่างทางการเมือง และมีการเคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้จะแก้ปัญหาอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ขอให้ระวังข้อกฎหมายก็แล้วกัน ตอนนี้ก็เห็นว่ามีการฟ้องร้องกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตามเราทุกคนต้องรู้จักเคารพกฎหมาย การจะทำอะไรก็ตามถือเป็นสิทธิเสรีภาพของทุกคนแต่ขออย่าให้มีผลกระทบต่อผู้อื่น อย่าทำความเสียหายต่อทรัพย์สินของทางราชการ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็พร้อมดำเนินการทางคดีและฟ้องร้องอยู่แล้ว ก็ไม่อยากให้ทุกคนตกเป็นจำเลย แต่ก็เข้าใจแต่ทุกคนต้องอยู่ในกรอบ ขอให้นึกถึงคนที่ไม่ได้มาชุมนุม นึกถึงคนที่อยู่เป็นปกติสุข นึกถึงคนที่เขาอยากประกอบอาชีพรายได้แล้วมาเจอปัญหาเหล่านี้ ตนคิดว่าไม่ใช่เสรีภาพที่ชัดเจนและแท้จริง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้เห็นภาพ ระหว่าง นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ที่ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมทะลุวังเข้าไปก่อนกวนหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “เห็นแล้ว แล้วจะยังไง มันควรหรือไม่เล่า สื่อก็ต้องควรช่วยกันบอกสิว่ามันไม่ควร ไม่ใช่เสนอข่าวว่าเกิดเหตุการณ์เช่นนี้แล้วมีการตีกันแบบนี้ สื่อก็ต้องช่วยกันบอกว่ามันเป็นสถานการณ์ที่สื่อมวลชนเห็นแล้วมันไม่สมควร สื่อต้องช่วยกันแบบนี้ ไม่ใช่จะให้นายกฯพูดทุกเรื่อง มันต้องช่วยกันบ้านเมืองถึงจะสงบมีเสถียรภาพ มีความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน มีเรื่องของการลงทุนมีเรื่องของธุรกิจ ต้องเป็นเรื่องของคนทั้งประเทศที่ต้องช่วยกัน ถ้าต่างคนต่างเสนอความขัดแย้งออกไปมันก็เกิดความขัดแย้งอยู่แบบนี้ก็จะมีปัญหาคนที่ทำก็จะทำต่อไปอยู่เรื่อยๆ แล้วการท่องเที่ยววันนี้มีคนเข้ามาเที่ยวประเทศไทยวันละ 1.5 แสนคน แล้วถ้าทะเลาะกันอยู่แบบนี้เขาจะมาทำไม เพราะฉะนั้นถ้าจะทำอะไรก็ขอให้อยู่ในกรอบกันหน่อย ทุกอย่างก็เป็นไปตามกฎหมายเป็นไปตามรัฐธรรมนูญทุกอย่าง จะมาอ้างโน่นอ้างนี่มันไม่ใช่เรื่อง เป็นการไปขยายให้พวกเขาเท่านั้นเอง”
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองเสถียรภาพการเมืองปัจจุบันหลังพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยจับมือกันเพื่อจัดตั้งรัฐบาลเป็นอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนไม่มีความคิดเห็นตรงนี้ ตนบอกแล้วไงตนไม่เกี่ยวข้องอะไรเลยในเรื่องของการเมืองพรรคการเมืองก็ว่ากันไป ตามกลไกของรัฐธรรมนูญก็ว่ากันไปต้องยอมรับกติกาตรงนี้มิใช่หรือ และที่ผ่านมา ก็รัฐธรรมนูญฉบับนี้ และทุกคนก็รู้อยู่แล้ว เมื่อรู้กันแล้ว แล้ววันนี้จะมามีปัญหาอะไรนักหนากับรัฐธรรมนูญฉบับนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า พอเปลี่ยนรัฐบาลทีก็มีการแก้รัฐธรรมนูญกันทุกครั้งมองเรื่องนี้อย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ เดินออกจากวงให้สัมภาษณ์พร้อมกล่าวว่า แล้วสื่อมองอย่างไรล่ะ ก่อนรีบเดินขึ้นห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้าทันที