ตัวแทนอีสาน ไม่โต้ “เฉลิมชัย” ที่กล่าวหาไม่รับผิดชอบ ทำองค์ประชุมพรรคล่ม แต่ขอใช้อารยะขัดขืน ด้วยจิตใจที่สงบและมั่นคง เพื่อรักษาจิตวิญญาณประชาธิปัตย์
วันนี้ (6 ส.ค.) ตามที่อดีตเลขาธิการพรรค นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ซึ่งได้ประกาศเลิกเล่นการเมืองไปแล้ว ได้ออกมาแถลงข่าวภายหลังที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ไม่สามารถดำเนินการประชุมได้ เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ โดยกล่าวหาว่า ผู้ที่ไม่มาประชุม และผู้ที่อยู่เบื้องหลัง ไม่มีจิตสำนึกรักประชาธิปัตย์ พวกเราขอชี้แจงว่า พวกเราเป็นกลุ่มที่รักและหวงแหนพรรคประชาธิปัตย์ เพราะต้องการรักษาพรรคนี้ให้เป็นสถาบันหลักของประเทศชาติ ประชาชน และเพื่อชาวประชาธิปัตย์ทุกคน มากกว่าที่จะให้พรรคการเมืองนี้ตกเป็นเครื่องมือเพื่อแสวงหาอำนาจทางการเมืองจากบุคคล หรือกลุ่มบุคคลบางกลุ่ม เพราะฉะนั้น การที่พวกเราไม่เข้าร่วมประชุม ไม่ใช่เพราะขาดจิตสำนึก แต่เป็นเพราะพวกเรามีจิตสำนึกที่สูงมากพอที่จะรู้ว่าพรรคกำลังจะถูกกลุ่มบุคคล นำพาไปสู่ทิศทางใด ซึ่งเป็นทิศทางที่เราไม่เห็นด้วย เราจึงใช้วิธีการอารยะขัดขืน ซึ่งเป็นวิธีการสากลที่นานาอารยประเทศ รวมทั้งรัฐสภาของไทยได้ใช้มาเพื่อปฏิเสธวิธีการที่คนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย
ท่านอดีตเลขาฯ อาจจะผิดหวังที่ไม่สามารถดำเนินการประชุมให้เป็นไปตามที่ท่านและกลุ่มของท่านต้องการได้ พวกกระผมเองก็ไม่สบายใจ ที่จะให้สถาบันการเมืองแห่งนี้ตกไปอยู่ในมือของกลุ่มบุคคลเพียงแค่ 20-21 คน ซึ่งมีน้ำหนักการโหวตคะแนนถึง 70% ในขณะที่ อดีตหัวพรรค 4 คน อดีตนายกฯ 2 คน และอดีต ส.ส. นับร้อยคน กลับมีคะแนนแค่เพียง 30% ซึ่งเรามองว่าเป็นขบวนการที่ไม่เป็นประชาธิปไตย
เราจึงขอเรียกร้องด้วยเหตุผล 2 ข้อ คือ
1. ให้มีการแก้ไขข้อบังคับในสัดส่วนการลงคะแนน ซึ่งเคยเสนอมาแล้วในการประชุมครั้งแรก แต่กลุ่มของท่านไม่เห็นด้วย
2. เราขอแสดงจุดยืนตามที่ ท่านชวน หลีกภัย และท่านบัญญัติ บรรทัดฐาน ที่จะไม่นำพาพรรคเข้าร่วมรัฐบาล เพื่อรักษาเกียรติภูมิของพรรคต่อไป
โดยพวกเราทุกคนยินดีที่จะเข้าร่วมประชุม หากมีการแก้ไขข้อบังคับที่ให้น้ำหนัก คะแนน ส.ส. 70% และให้องค์ประชุมอื่นๆ แค่ 30% หรืออัตราส่วนคือ 30 คน ของโหวตเตอร์ทั้งหมดต่อ ส.ส. เพียงคนเดียว และ ส.ส ส่วนใหญ่พึ่งเป็น ส.ส สมัยแรก เราจึงไม่สามารถฝากอนาคตของพรรคไว้กับคนเพียง 20 กว่าคนได้ แต่เรายินดีจะร่วมประชุมทุกครั้งด้วยน้ำหนักการโหวตเตอร์ที่เท่าเทียมกัน คือ หนึ่งต่อหนึ่ง เพราะเราถือว่าทุกคนที่เป็นองค์ประชุมมีสถานะที่เป็นชาวประชาธิปัตย์ที่เท่าเทียมกัน ไม่ใช่องค์ประชุมสามสิบคนเทียบเท่ากับ ส.ส. เพียงแค่หนึ่งคน
เราจึงขอแสดงจุดยืนด้วยจิตใจที่สงบ มั่นคง และยึดมั่นที่ต่ออุดมการณ์ ที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อประชาชนและชาวประชาธิปัตย์ทุกคน
1. ชุมพล พวงพิลา
2. โกมล สําแดง
3. ธรีวัช สมสา
4. วิมล มะลิลา
5. ประสิทธิ มูลลาด
6. ราตรี เจริญศรี
7. วิชิต ทองโปรย
8. อัญมณี เหลืองวิเศษ
9. อภิรนันท์ ศรีมันตระ
10. บุญมี เชื้อขาว
11. ภูมิสิทธิ การะเวท
12. ไพบูลย์ ศิริมา
13. สุรชัย ทิพยมาตร
14. ธงชัย กึ่งมาตย์
15. ทองพูน สีหาบุตร
16. ประวรรษ หวายฤทธิ์
17. ณภัทธิรา โชติโอฬารกุล
18. ยุภาพร จริยานุวัตร
19. สมคิด สุทธิพรม
20. พศวีร์ จักรพันธเ์ดโช
21. วินัย ติยะบุตร