ไม่เผาผี! “เสรีพิศุทธ์” เปิดหน้าแฉก้าวไกลปล่อยให้ “นครชัย ขุนณรงค์” เป็น ส.ส.ระยอง เขต 3 ทั้งที่เป็นอดีตนักโทษ พร้อมจัดการเอาออก
วันนี้ (26 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.พรรคเสรีรวมไทย ได้ไปออกอากาศรายการชื่อดัง “โหนกระแส” ทางช่องสาม โดยในช่วงท้ายของรายการได้มีการพูดพาดพิงถึงพรรคก้าวไกล ว่า ส.ส.ของพรรค เขต 3 จังหวัดระยอง เป็นอดีตนักโทษเคยติดคุก พร้อมระบุว่า จะดำเนินการเอาออก รวมถึงตำหนิเรื่องที่ทีมงานรักษาความปลอดภัยของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ก็เคยเป็นนักโทษเช่นกัน
เสรีพิศุทธ์ : “คุณดูนี่ ก้าวไกลเอาไปได้ไง นักโทษ (โชว์ภาพในโทรศัพท์)”
กรรชัย : ท่านอย่างนี้เดี๋ยวมีปัญหานะ
เสรีพิศุทธ์ : ไม่มี ผมรู้กฎหมาย เดี๋ยวผมจะเอาออกด้วยซ้ำไป
กรรชัย : ทำไมล่ะฮะ?
เสรีพิศุทธ์ : ก็เอานักโทษที่เคยติดคุก ไปเป็น ส.ส. ได้ไง แล้วกองเชียร์ก็ยังเชียร์ก้าวไกล ว่าอย่างนี้ดี ดี ดี เหรอ? อย่างนี้ดีเหรอ? ก็เนี่ยนักโทษ ระยองเขต 3 ... ผมเป็นคนตรงไปตรงมาพูดจริงทำจริง
อนึ่ง ปัจจุบัน ส.ส.ระยอง เขต 3 พรรคก้าวไกล จากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 นั้น คือ นายนครชัย ขุนณรงค์ หรือ ไอซ์ ระยอง ที่ชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนน 29,034 คะแนน
ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ในมาตรา 98 ระบุถึงลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไว้ดังนี้ คือ
บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
(1) ติดยาเสพติดให้โทษ
(2) เป็นบุคคลล้มละลาย หรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต
(3) เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ
(4) เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้งตามมาตรา 96(1) (2) หรือ (4)
(5) อยู่ระหว่างถูกระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นการชั่วคราวหรือถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง
(6) ต้องคําพิพากษาให้จําคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล
(7) เคยได้รับโทษจําคุกโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึงสิบปีนับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทําโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
(8) เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เพราะทุจริตต่อหน้าที่หรือถือว่ากระทําการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ
(9) เคยต้องคําพิพากษาหรือคําสั่งของศาลอันถึงที่สุดให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ํารวยผิดปกติ หรือเคยต้องคําพิพากษาอันถึงที่สุดให้ลงโทษจําคุกเพราะกระทําความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
(10) เคยต้องคําพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทําความผิดต่อตําแหน่งหน้าที่ราชการหรือต่อตําแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม หรือกระทําความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ หรือความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทําโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญาความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน กฎหมายว่าด้วยยาเสพติดในความผิดฐานเป็นผู้ผลิต นําเข้า ส่งออก หรือผู้ค้า กฎหมายว่าด้วยการพนันในความผิดฐานเป็นเจ้ามือหรือเจ้าสํานักกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในความผิดฐานฟอกเงิน
(11) เคยต้องคําพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทําการอันเป็นการทุจริตในการเลือกตั้ง
(12) เป็นข้าราชการซึ่งมีตําแหน่งหรือเงินเดือนประจํานอกจากข้าราชการการเมือง
(13) เป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น
(14) เป็นสมาชิกวุฒิสภาหรือเคยเป็นสมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกภาพสิ้นสุดลงยังไม่เกินสองปี
(15) เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ
(16) เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือผู้ดํารงตําแหน่งในองค์กรอิสระ
(17) อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง
(18) เคยพ้นจากตําแหน่งเพราะเหตุตามมาตรา 144 หรือมาตรา 235 วรรคสาม