xs
xsm
sm
md
lg

sacit จัดใหญ่ "Crafts Bangkok 2023 "คราฟท์จากภูมิปัญญาไทยสู่เวทีโลก 26-30ก.ค.นี้ ไบเทค บางนา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย หรือ sacit เตรียมจัด " Crafts Bangkok 2023 " ต่อยอดอัตลักษณ์จากภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยสู่เวทีโลกช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ คาดเม็ดเงินสะพัดตลอดงานกว่า 100 ล้านบาท

วันนี้(24ก.ค.) ที่โรงแรมโซ แบงคอก น.ส.นฤดี ผู้รัตนรักษ์ รักษาการผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย(องค์การมหาชน) หรือ sacit พร้อมด้วยน.ส.จุฑาทิพย์ ไชยสุระ เจ้าของแบรนด์ JUTATIP นายมนัทพงศ์ เซ่งฮวด เจ้าของแบรนด์หัตถกรรมกระจูดวรรณี นายเปรมณัช สุวรรณานนท์ ดารานักแสดงชื่อดัง ร่วมกันแถลงถึงความพร้อมจัดงาน " Crafts Bangkok 2023 " น.ส.นฤดี กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ มีนโยบายมุ่งเน้นการส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทยทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งส่งเสริมภาพลักษณ์ของสินค้างานศิลปหัตถกรรมไทยให้ทันสมัยและมีความเป็นสากลมากยิ่งขึ้น จึงมอบหมายให้สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ sacit จัดงาน Crafts Bangkok ซึ่งตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมาของการจัดงานได้สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ระบบเศรษฐกิจไทยกว่า 614.62 ล้านบาท และในปีนี้คาดว่าจะสามารถสร้างเม็ดเงินสะพัดได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

น.ส.นฤดี กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ sacit พร้อมแล้วที่จะจัดงาน " Crafts Bangkok 2023 " งานแสดงสินค้าศิลปหัตถกรรมไทยและงานคราฟต์สุดยิ่งใหญ่แห่งปี ซึ่งจะช่วยส่งเสริมสนับสนุนและสร้างความแข็งแกร่งให้งานศิลปหัตถกรรมไทยให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดสากลพร้อมผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางงานศิลปหัตถกรรมในระดับภูมิภาคอาเซียนเพื่อขยายตลาดงานศิลปหัตถกรรมให้แพร่หลายและตรงกับรสนิยมของผู้บริโภคในแต่ละภูมิภาคของโลกและสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ อันจะเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ นำไปสู่การขายตลาดส่งออกงานหัตถกรรมไทย สอดรับนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ที่ต้องการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมที่มีรูปแบบที่ร่วมสมัย เป็นการแสดงพลังแห่งความมุ่งมั่นของการพัฒนา ต่อยอด จุดประกายความคิดสร้างสรรค์ให้แก่วงการศิลปหัตถกรรมไทย

การจัดงานในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศให้มีเม็ดเงินหมุนเวียน สร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการ ที่มาจำหน่ายสินค้าในงานแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้องค์ความรู้ด้านงานศิลปหัตถกรรม แก่ผู้ที่มีความสนใจด้านงานอาร์ต งานหัตถศิลป์ ได้แลกเปลี่ยนทัศนะ เรียนรู้เทคนิค วิธีการทำงาน จาก ครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม และทายาทช่างศิลปหัตถกรรม สมาชิกของ สศท. รวมถึงศิลปินจากต่างประเทศที่ร่วมนำผลงานมาจัดแสดงทั้ง 7 ประเทศ ได้แก่สหรัฐอเมริกา อิตาลี ญี่ปุ่น อาเซียน อาทิ อินโดนิเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และภูฎาน โดยแต่ละประเทศได้นำผลงาน highlight มาจัดแสดงในงาน Crafts Bangkok 2023ช เป็นที่แรกเช่น บิงกะตะ กิมิโน ซึ่งเป็นเทคนิคการย้อมทอมือ และระบายสีที่มีประวัติยาวนานกว่า 15 ศตวรรษ โดย Mr. Eiichi Shiroma จากญี่ปุ่น ผลงานจากศิลปินในภูมิภาคอาเซียนโดยสมาคมส่งเสริมและพัฒนาหัตถกรรมอาเซียน(AHPADA) อินโดนีเซีย (ASEPHI) ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ซึ่งเป็นผลงานศิลปะที่รังสรรค์จากเส้นใยธรรมชาติที่หาได้ในท้องถิ่น ภาพวาดจากศิลปินชาวอิตาเลียน Ms. ARIANNA CAROLI ซึ่งเป็นศิลปินที่ร่วมงานกับบริษัทชั้นนำระดับโลกและองค์กรการกุศลมากมายทั้งในและต่างประเทศโดยเทคนิคการใช้ทองคำมาวาดลงในผืนผ้า โดยภายในงานจะมีการนำชิ้นงานที่ปรับรูปแบบให้เข้ากับสิ่งของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น หมอน ผ้าพันคอ และ กระเป๋า เพื่อให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ผลงานภาพวาดจาก Mr. Matthew Campbell Laurenza ศิลปินชาวสหรัฐอเมริกาที่พัฒนางานโดยได้แรงบันดาลใจมาจากการเดินทาง ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงการให้ความสำคัญในด้านการค้าแบบเสรีที่ให้ความเป็นธรรมและผลประโยชน์คืนสู่สังคม กระบวนการย้อมผ้าด้วยสีและวัสดุธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์จากราชอาณาจักรภูฏาน
ผลงานจากศิลปินชาวไทย ที่มีชื่อเสียงแพร่หลายในระดับสากล อาทิผลงานจากเศษวัสดุเหลือ ผลงานที่พัฒนาจากวัสดุธรรมชาติและกระบวนการย้อมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คาดว่าเมื่อสิ้นสุดการจัดงานตลอด 5 วัน จะมีเม็ดเงินสะพัดกว่า 100 ล้านบาทอย่างแน่นอน

ทั้งนี้งาน " Crafts Bangkok 2023 " จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-30 ก.ค
นี้ เวลา 10.00-20.00 น. ณ ฮอลล์ 98-99 ไบเทค บางนา เอาใจคนรักงานคราฟต์ที่จะได้เสพงานศิลป์จุใจ 5 วันเต็ม พบกับผู้ประกอบการที่มาจำหน่ายสินค้าแฮนด์เมดนับหมื่นรายการ ในงานกว่า 400 คูหามารวมไว้ที่นี่ที่เดียว โดยปีนี้ จะจัดภายใต้แนวคิด “Creative Innovation Green” ต่อยอดอัตลักษณ์จากภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อเพิ่มมูลค่าท้องถิ่นด้วยความคิดสร้างสรรค์ จนเกิดเป็นผลงาน Masterpiece เพื่อยกระดับภูมิปัญญาของท้องถิ่นไทยสู่เวทีโลก และผสมผสานกระแสความยั่งยืนของโลก ด้วยการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกับ Green Economy

ด้านน.ส.จุฑาทิพย์ กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์เรา สามารถพัฒนาและนำไปจำหน่ายยังต่างประเทศ ลูกค้าเชื่อมั่นในคุณภาพและการเป็นสินค้าที่รักษ์โลก ตอบรับนโยบาย BCG

ขณะที่นายมนัทพงศ์ กล่าวว่า ภูมิใจในผลิตภัณฑ์ของตัวเองมาก ได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาด ทำให้กระจูดจากที่เป็นวัชพืช ตอนนี้ต้องนำมาปลูกเนื่องจากวัสดุเริ่มไม่เพียงพอ

ส่วนนายเปรมณัชกล่าวว่า ตนและภรรยานิยมสวมใส่เสื้อผ้าที่ผลิตมาจากธรรมชาติ หรือคราฟ และเห็นถึงความตั้งใจของชาวบ้านที่ทำ ทอด้วยมือ จึงอยากจะส่งเสริมผลิตภัณฑ์ของคนไทย มีสินค้าหลายแบรนด์ส่งออกไปขายต่างประเทศ และมีการพัฒนาด้านการออกแบบด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น