วันนี้(23 ก.ค.)ร.ท.ธนเดช เพ็งสุข ส.ส.กรุงเทพ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงเนื้อหาในชุดร่างกฎหมายปฏิรูปกองทัพ ซึ่ง ส.ส.พรรคก้าวไกลได้ยื่นเข้าสู่สภาผู้แทนราษฏรไปเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่าในชุดกฎหมายดังกล่าวนี้ มีร่างแก้ไขกฎหมายอยู่หลายฉบับที่เกี่ยวกับกองทัพ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเกณฑ์ทหาร การปฏิรูปธุรกิจของกองทัพ และที่ดินภายใต้การกำกับของกองทัพ แต่สิ่งที่พรรคก้าวไกลเห็นว่าเป็นล็อคตัวแรกที่สำคัญที่สุด ก็คือร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ซึ่งจะเป็นร่างกฎหมายเพื่อการปรับโครงสร้างสภากลาโหม ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงสร้างที่ทำให้กองทัพมีอำนาจเหนือรัฐบาลพลเรือนในการบริหารกองทัพในแทบทุกด้าน
ร.ท.ธนเดช กล่าวต่อว่า ภายใต้โครงสร้างปัจจุบัน สภากลาโหมเป็นผู้ที่ตัดสินใจทุกเรื่องที่มีความสำคัญต่อกองทัพ แต่ตัวกรรมการนั้นกลับมีตัวแทนสัดส่วนของพลเรือนเพียง 2 คน คือรัฐมนตรีว่าการ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นอกนั้นคือ ผบ.สส. และบรรดา ผบ.เหล่าทัพทั้ง 3 เหล่า บวกกับปลัดกระทรวงกลาโหม 1 คน ซึ่งเป็นทหารทั้งหมด ไม่มีทางที่จะทำให้มติใดที่จะเป็นการปฏิรูปกองทัพผ่านไปได้เลย นี่คือโครงสร้างที่รัฐมนตรีกลาโหมไม่ได้มีอำนาจจริงๆ รัฐบาลพลเรือนไม่มีอำนาจจริงในการบริหารกองทัพ โดยเฉพาะการแต่งตั้งนายทหารระดับสูงของกองทัพ ซึ่งส่งผลอย่างมากต่อการวางเครือข่ายคุมกำลังพล ที่ทำให้การรัฐประหารทุกครั้งโดย ผบ.เหล่าทัพ เกิดขึ้นไผในทิศทางเดียวกันหมด
ร.ท.ธนเดช กล่าวต่อไปว่า โครงสร้างการบริหารเช่นนี้ คือต้นตอของปัญหาการที่อำนาจรัฐบาลพลเรือนไม่อาจอยู่เหนือกองทัพได้เสียที และนี่คือสิ่งที่พรรคก้าวไกลเสนอว่าจะต้องมีการปรับปรุงโครงสร้าง เปลี่ยนมาเป็นระบบเสนาธิการร่วม ที่รัฐบาลพลเรือนมีอำนาจเหนือกองทัพจริง ทั้งในการแต่งตั้งโยกย้ายภายใต้เกณฑ์ที่มีความเป็นธรรม ใช้ระบบความสามารถ ไม่ใช่ระบบอุปถัมภ์ รวมถึงการเคลื่อนย้ายกำลังพลด้วย
ซึ่งทั้งหมดนี้ พรรคก้าวไกลได้ยื่นร่างกฎหมายนำเสนอไปทั้งหมดแล้ว โดยคาดว่าจะได้เป็นร่างกฎหมายฉบับแรกๆ ที่จะมีการนำเข้าบรรจุสู่วาระการประชุมสภา และหากผ่านขึันมาได้ ก็จะนำไปสู่ขั้นตอนการปลดล็อคต่างๆ เพื่อเปิดทางให้มีการปฏิรูปกองทัพในด้านอื่นๆ ต่อจากนี้ไป โดยเฉพาะในสิ่งที่เป็นความหวังของคนหนุ่มสาว และพ่อแม่ที่มีลูกชายวันฉกรรจ์จำนวนมาก นั่นคือการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ที่เราต้องการผลักดันให้ทันก่อนการเกณฑ์ทหารครั้งหน้าให้ได้
“ผมขอให้พี่น้องประชาชนร่วมกันติดตามการอภิปรายปละการพิจารณาเรื่องนี้ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอย่างใกล้ชิดต่อไป ผมค่อนข้างมั่นใจว่าอย่างน้อยที่สุด เรื่องของการเกณฑ์ทหารที่พี่น้องหลายคนฝากความหวังไว้ และหลายพรรคก็ได้หาเสียงไว้ตรงกัน จะผ่านได้สำเร็จก่อนการเกณฑ์ทหารครั้งต่อไป ทำให้การเกณฑ์ทหารปี 2566 เป็นครั้งสุดท้ายได้ในที่สุด” ร.ท.ธนเดช กล่าว