กกต.-ตร.เข้มรักษาความปลอดภัยสถานที่ ปิดประตูทางเข้าห้องรับเรื่อง-คัดกรองบุคคลเข้าออก หลังชายบุกปาน้ำปลาร้าใส่ ส่วนคดีรอจนท.มาแจ้งความ
วันนี้ (21ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังวานนี้(20ก.ค.)เกิดเหตุชายสูงอายุบุกเข้าปาน้ำปลาร้าที่หน้าเคาน์เตอร์รับส่งหนังสือร้องเรียนของสำนักงานกกต. ช่วงสายวันนี้พบว่าทางสำนักงานฯได้มีการปิดประตูเข้าออกด้านหน้าห้องรับเรื่องร้องเรียน โดยให้ผู้ที่จะมายื่นหนังสือผ่านเข้าออกได้เพียงซึ่งจะต้องมีการแลกบัตรและลงชื่อกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลที่ดูแลรักษาความปลอดภัยประจำสำนักงานกกต.รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของอาคารศูนย์ราชการก็ได้เข้มงวดตรวจตราบุคคลเข้าออกและเดินตรวจพื้นที่บริเวณโดยรอบสำนักงานกกต.มากขึ้น
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ของ กกต.คนหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุของเมื่อวานนี้ชายสูงอายุคนหนึ่งซึ่งตนเองจำได้ว่าได้เดินทางมาที่ กกต. แล้วประมาณ3-4ครั้ง จึงไม่ได้คิดว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ก่อนที่ชายสูงอายุคนดังกล่าวจะเดินมาปิดช่องหน้าต่างที่รับส่งหนังสือพร้อมกับปิดประตูกระจก แล้วหยิบเอาถุงปลาร้าป๋าเข้าไปที่ช่องกระจกส่งรับหนังสือทำให้ปลาร้ากระจายเปื้อนที่กระจกและพื้นด้านหน้าช่องรับส่งหนังสือ จนทำให้มีกลิ่นของปลาร้าเหม็นทั่วบริเวณดังกล่าว ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาห้าม
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล ที่ดูแลความปลอดภัยและอยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า วานนี้ตนเองสังเกตุเห็นชายคนดังกล่าวเดินเข้ามาผ่านประตูทางเข้าของอาคาร ซึ่งเคยเห็นมีพฤติกรรมมาร้องเรียนแล้วหลายครั้งจึงได้เดินตามมา แต่เมื่อมาถึงบริเวณหน้าที่เกิดเหตุชายคนดังกล่าวได้หยิบเอาน้ำปลาร้าขึ้นมาแล้วปาไปที่เคาน์เตอร์ จึงได้เข้าไปควบคุมสถานการณ์ แต่ไม่ได้ใช้กำลังเพราะชายคนดังกล่าวมีอายุมากแล้วเกรงว่าจะได้รับบาดเจ็บ จึงพูดคุยและจัดทำประวัติ ทั้งนี้บริเวณสำนักงาน กกต. จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการสันติบาล มาคอยดูแลรักษาความปลอดภัยวันละ 4 นาย ส่วนบริเวณรอบนอกจะเป็น ความรับผิดชอบของตำรวจ สน. ทุ่งสองห้อง รวมถึงกองกำกับการตำรวจนครบาล2 ซึ่งในช่วงนี้ได้รับคำสั่งว่าให้สอดส่องดูแลเป็นพิเศษ
ด้านความคืบหน้าของคดี พลตำรวจตรี อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล2 กล่าวว่า ขณะนี้รู้ตัวผู้ที่ก่อเหตุแล้วเป็นชายสูงอายุ อยู่ระหว่างรอให้เจ้าหน้าที่ กกต. ซึ่งเป็นผู้เสียหายเดินทางเข้ามาแจ้งความหลังจากนั้นจะเรียกตัวชายคนดังกล่าว มาสอบปากคำข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น หากพบเข้าข่ายกระทำความผิดก็อาจจะดำเนินคดีตามกฎหมาย
ส่วนการรักษาความปลอดภัยนั้นได้สั่งการให้ ตำรวจสน. ทุ่งสองห้อง เพิ่ม ความเข้มในการ บริเวณศาลรัฐธรรมนูญ และ กกต. ในช่วงนี้เป็นพิเศษ และคอยประสานกับตำรวจสันติบาลที่ดูแลพื้นที่อยู่ภายในด้านในอยู่ตลอด หากมีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้นก็จะสามารถเข้าไประงับเหตุได้ทันที
อย่างไรก็ตามมีรายงานข่าวระบุว่าชายสูงวัยที่เข้าไปปาน้ำปาร้า คือ ลุงเทวา ศรีตะวัน อายุ 67 ปี ชาวปากเกร็ด นนทบุรี ที่ผ่านมาเคยมาที่ กกต.หลายครั้ง โดยก่อนหน้านี้ยังเคยนำสับปะรด มามอบให้ กกต. เพื่อสื่อให้เห็นการทำงานของ กกต. ด้วย