"เรืองไกร" ชี้ "พิธา" ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ทันที และการเสนอชื่อเป็นนายกฯ ต้องตกไป ควรเปิดโอกาสให้เพื่อไทยเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ แทน เตือนสมาชิกรัฐสภาหากโหวตเลือกพิธา จะถูกยื่นร้องต่อ ป.ป.ช.ฐานเสี่ยงทำผิดกฏหมาย
วันนี้(19 ก.ค.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กล่าวภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติสั่งให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. หลังรับคำร้องประเด็นถือหุ้นสื่อไว้พิจารณา ว่า ไม่รู้สึกแปลกใจ เพราะตามมาตรา 82 ของรัฐธรรมนูญ เป็นอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญที่จะวินิจฉัย โดยข้อเท็จจริงของคำร้องที่ตนเองยืนยันมาโดยตลอด คือเรื่องของบัญชีผู้ถือหุ้นและวัตถุประสงค์ของบริษัท ซึ่งตามหลักศาลจะต้องให้นายพิธาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา เพื่อความเป็นธรรม
ทั้งนี้เมื่อศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องและมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.แล้ว นายพิธาต้องออกจากห้องประชุมรัฐสภา ส่วนการเสนอชื่อนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี ขอเตือนด้วยความหวังดีว่าสมาชิกรัฐสภาที่เสียบบัตรเพื่อจะโหวตให้นายพิธา ตนเองจะส่งชื่อทั้งหมดร้องต่อ ปปช.อย่างแน่นอน เพราะมีความเสี่ยงผิดกฏหมายว่าจงใจใช้อำนาจขัดต่อหน้าที่หรือไม่ อย่างไรก็ตามมองว่าวันนี้ชื่อของนายพิธาก็ต้องตกไป ไม่สามารถโหวตได้ โดยนายพิธาควรแสดงความรับผิดชอบก้วยการไปต้อสู้คดี มากกว่าการแถลงขอโอกาสอีกครั้ง และเห็นควรเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย จำนวน 3 รายชื่อให้รัฐสภาโหวตมากกว่า
ส่วนกรณีที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางรับคดีฟ้อง กกต.ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ไม่ตรวจสอบคุณสมบัติ ส.ส.ก่อนเลือกตั้ง นายเรืองไกร มองว่ายื่นฟ้องผิดศาล ต้องไปยื่นต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมากกว่า