xs
xsm
sm
md
lg

“พิธา” นับถอยหลัง พท.ดัน “เศรษฐา” แล้ว!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ - เศรษฐา ทวีสิน - แพทองธาร ชินวัตร
เมืองไทย 360 องศา

สำหรับชะตากรรมของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพียงหนึ่งเดียวของพรรคก้าวไกล กำลัง “แขวนอยู่บนเส้นด้าย” และยังเป็นเส้นด้ายที่ใกล้จะขาดลงเต็มทีแล้ว แม้ว่าผลการประชุมพรรคร่วม 8 พรรค เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ที่ผ่านมา จะให้โอกาส นายพิธา ได้รับการเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรีครั้งที่สองก็ตาม โดยเจ้าตัวขอโอกาส โดยย้ำว่า หากได้รับเสียงโหวตไม่เพิ่มขึ้นแบบมีนัยสำคัญ นั่นคือ หากไม่เพิ่มถึงร้อยละ 10 ก็จะเปิดทางให้พรรคเพื่อไทย จัดตั้งรัฐบาล และเสนอชื่อแคนดิเดตของพรรคขึ้นมาแทน

อย่างไรก็ดี ปัญหาของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก็คือ  จะได้โหวตเป็นนายกรัฐมนตรีในรอบที่ 2 หรือไม่ เพราะมีทั้งส.ว.และ ส.ส.หลายคนที่เห็นว่า ตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่ 41 ที่ระบุถึงญัตติที่ตกไปแล้ว ไม่ให้เสนอซ้ำขึ้นมาใหม่ นอกเหนือจากทางฝ่าย ส.ว.ที่ยืนกรานว่า จะไม่ให้มีการโหวต นายพิธา แล้วยังมี ส.ส.จากบางพรรคที่เห็นสอดคล้องกัน เช่น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานผู้ประสานงาน ส.ส.จากพรรคพลังประชารัฐ นอกจากนั้น ก็มีหลายพรรคที่ยังยืนยันเช่นเดิมว่า จะไม่โหวตให้ นายพิธา เนื่องจากเป็นพรรคที่แก้ไขมาตรา 112 ทั้งจากพรรคภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา และประชาธิปัตย์

ที่น่าสนใจก็คือ คำพูดของ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ที่กล่าวภายหลังการประชุมวิป 3 ฝ่าย ว่า ยังไม่ได้ข้อสรุปชัดเจน จะยึดข้อบังคับข้อ 41 ที่ห้ามเสนอญัตติที่ตกไปแล้วขึ้นมาพิจารณาใหม่ นั่นคือ การโหวต นายพิธา อีกครั้งได้หรือไม่ ดังนั้น ก็ต้องฟังเสียงสมาชิกให้ครบถ้วนก่อน

เมื่อถามถึงการชี้ขาดนั้น ประธานรัฐสภาจะวินิจฉัยเอง หรือจะต้องขอมติจากที่ประชุมร่วมรัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า จะต้องรับฟังข้อมูลจากสมาชิกทุกฝ่ายอย่างครบถ้วน และต้องดูหน้างานอีกครั้ง ว่าจะวินิจฉัยเอง หรือต้องขอมติจากที่ประชุม ทั้งนี้ ในการหารือวิป 3 ฝ่าย มีผู้เสนอว่าจะให้ที่ประชุมรัฐสภาอภิปรายเรื่องนี้ไม่เกิน 2 ชั่วโมง แต่ก็ต้องดูหน้างานอีกเช่นกัน

ถามว่า ในวันที่ 19 ก.ค.นี้ หากชื่อ นายพิธา ไม่ได้เป็นนายกฯแล้ว จะเสนอชื่อบุคคลอื่นเพื่อโหวตนายกฯต่อได้เลย ใช่หรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ข้อบังคับการประชุมรัฐสภาและรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ห้ามไว้

ดังนั้น หากพิจารณากันถึงอุปสรรคขวากหนามกันแล้ว ก็ต้องบอกว่า หวาดเสียวตั้งแต่ขั้นตอนแรกแล้วว่า จะได้โหวตรอบสอง หรือไม่ เพราะนาทีนี้แม้แต่ทางประธานรัฐสภา คือ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ก็ยังไม่อาจการันตีได้เลยว่าจะได้โหวตหรือไม่ และเมื่อพิจารณาจากท่าทีแล้ว ทั้ง ส.ส.และ ส.ว. ที่เคยโหวตคัดค้าน หรืองดออกเสียง ก็ยังมีท่าทีแบบเดิม ทำให้แทบเป็นไปไม่ได้เลยว่า หากมีการโหวตรอบที่สองแล้ว นายพิธา จะได้รับเสียงสนับสนุนเพิ่มขึ้นอีกราว 10 เปอร์เซ็นต์ เพื่อขอโอกาสได้รับการโหวตในรอบที่สาม

**แต่ขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่งกลับได้เห็นการเคลื่อนไหวที่ชัดเจนแบบที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน นั่นคือ ความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทย ที่ประกาศชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน หนึ่งในแคนดิเดตนายกฯของพรรค ให้ได้รับการโหวตเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว โดยคนที่พูดยืนยัน ก็คือ “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย

“พรรคเพื่อไทยก็จะเสนอ นายเศรษฐา ทวีสิน อันนี้เป็นที่ชัดเจน แต่เราทำไปทีละขั้น” นั่นคือ คำพูดของเธอ เมื่อถูกถามกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไปต่อไม่ได้

ซักว่า หากนายกฯ เป็นนายเศรษฐาแล้ว น.ส.แพทองธาร จะรับตำแหน่งรัฐมนตรี หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ยังไม่ได้คิดในส่วนของตัวเองไว้ แต่ไม่ว่าจะอย่างไร แคนดิเดตทั้ง 3 คน จะช่วยกันทำงาน ตอนนี้ที่กำลังเสนอชื่อ นายพิธา เราก็ทำงานด้วยกันทั้ง 3 คน และทุกคนในพรรคยืนยัน ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งอะไรก็ช่วยกันได้แน่นอน

“ตอนนี้ประเทศชาติไม่ง่าย เพราะฉะนั้นเราคิดว่าตัวเลือกที่สุดกับประเทศ ณ ตอนนี้ คือ คุณเศรษฐา ที่จะช่วยในเรื่องของเศรษฐกิจ ถ้าพรรคเพื่อไทย ได้เป็นรัฐบาล แต่ถ้าไม่ได้ เราก็ทำงานร่วมกันในการช่วยประเทศชาติ ทั้งนี้ หากเป็นหัวหน้ารัฐบาลและต้องเลือกจากเรา เราก็มองว่าคือคุณเศรษฐา” น.ส.แพทองธาร กล่าว

ถามว่า ท่าที ส.ว. หากยกมือสนับสนุนพรรค พท. ต้องไม่มีพรรคก้าวไกล น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ขอให้เป็นเรื่องที่ 8 พรรคร่วม และ กก.บห. คุยกันอีกครั้ง ตนไม่มีหน้าที่ตอบ และเราจะทำไปทีละขั้นตอน ไม่เช่นนั้น จะเกิดความวุ่นวาย และความไม่สบายใจของประชาชนด้วย

ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังการประชุมวิป 3 ฝ่าย ว่า ในการประชุมวันที่ 19 ก.ค. เมื่อเปิดประชุมแล้ว ตามมติ 8 พรรคร่วมรัฐบาล จะเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ให้โหวตนายกฯ อีกรอบ โดย พรรคเพื่อไทย จะเป็นผู้เสนอชื่อนายพิธา แต่ถ้ามีคนเห็นต่าง อยากให้ญัตติดังกล่าวตกไป ก็จะต้องมาอภิปรายถกเถียงกัน สุดท้ายคงต้องใช้วิธีการลงคะแนนตัดสิน ถ้าญัตติดังกล่าวตก ก็ถือว่าจบไป ต้องไปนัดประชุมรอบใหม่

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยต้องการเวลาในการหาเสียงสนับสนุนนานเท่าไหร่ เพื่อตั้งรัฐบาลหากชื่อของ นายพิธา ยังไม่ผ่านการโหวตในรอบสอง นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีความพร้อม แต่ต้องรอให้ผ่านกระบวนการภายในพรรคก่อน ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล หลายเรื่องจะต้องเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะเนื้อหาสาระของเอ็มโอยูทั้ง 8 พรรค หลายเรื่องจะต้องเปลี่ยนแปลง แต่ไม่ใช่การยกเลิก เช่น ชื่อของนายพิธา จะต้องเปลี่ยนไปเป็นใคร การเติมเสียงพรรคที่ 9 พรรคที่ 10 การหาเสียง ส.ว.มาสนับสนุนเพิ่มเติม ถ้าประธานรัฐสภา จะบรรจุญัตติเลือกนายกฯ ในสัปดาห์หน้า เราก็มีความพร้อม

ดังนั้น หากให้สรุปให้เห็นถึง “ชะตากรรม” ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นาทีนี้ถือว่าแขวนอยู่บนเส้นด้ายที่เปื่อยๆพร้อมที่ขาดผึงลงมาได้ตลอดเวลา เอาเป็นว่า “ไม่มีลุ้น” เลยก็ว่าได้ เพราะวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ ยังไม่รู้ว่าจะได้โหวตรอบสองหรือไม่ด้วยซ้ำ เพราะทั้ง ส.ส.และ ส.ว.ตั้งป้อมขวางกันเต็มที่ อ้างเรื่องข้อบังคับที่ 41 ที่ห้ามนำญัตติที่ตกไปแล้วขึ้นมาพิจารณาใหม่ โดยที่ท่าทีพรรคเพื่อไทย ก็เหมือนกับว่า “ยืนมองเฉยๆ” และมีการประกาศเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน ขึ้นมาเป็นนายกฯ และมีการพูดถึง พรรคที่ 9 และที่ 10 มาร่วมรัฐบาล ซึ่งทุกอย่างเหมือนกับเกมที่กำหนดเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว ว่าต้องเดินตามนี้ !!


กำลังโหลดความคิดเห็น