'ชาดา' เผยคยยื่นมือหา 'ก้าวไกล' เสนอลดเพดาน ไม่แก้ ม.112 ก็พร้อมยกมือหนุน แต่ถูกเมิน ชี้หากพรรคลำดับ 1-2 จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ภูมิใจไทยก็พร้อมเสนอชื่อนายกฯ
วันนี้(18 ก.ค.) นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงทิศทางการโหวตเลือกบุคคลที่สมควรดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภาในวันที่ 19 ก.ค. ต่อความพร้อมของพรรคภูมิใจไทยในการเสนอชื่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค เป็นแคนดิเดตนายกฯ ว่า เราเป็นเสียงข้างน้อย ต้องให้พรรคอันดับ 1 จัดตั้งรัฐบาล หากจัดตั้งไม่ได้ ก็ต้องไล่ตามลำดับ ให้เป็นพรรคอันดับ 2 หรืออันดับ 3 และหากเพื่อไทยจัดตั้งไม่ได้ พรรคภูมิใจไทยพร้อมอยู่แล้ว แต่ต้องตามความเห็นจากหัวหน้าพรรค ว่าพร้อมให้เสนอชื่อเป็นนายกฯ หรือไม่
สำหรับกรณีแสดงความเห็นออกไป ได้มีทัวร์หรือผู้เห็นต่างเข้ามาต่อว่าบ้างหรือไม่ นายชาดา บอกว่า มีตามสื่อ แต่ที่บ้านยังไม่มี ตนไม่สนใจอยู่แล้ว
"ไปเถอะครับ อยากให้ไป เตรียมรออยู่แล้ว ไม่ได้ท้า แต่ไม่ชอบพฤติกรรมแบบนี้ ไม่ใช่การเมือง แต่เป็นกลุ่มอันธพาล คุกคามครอบครัวของ ส.ว. ด่าว่าจะไปปาระเบิดที่บ้านพัก ซึ่งไม่ถูกต้อง ไม่สมควรจะนำมาใช้"
ขณะที่หากพรรคก้าวไกลยอมลดเพดานแก้ไขมาตรา 112 ที่ประชุมของพรรคภูมิใจไทยเห็นว่า ถ้าพรรคก้าวไกลถอยเรื่องนี้ พรรคภูมิใจไทยก็จะลงมติให้ แต่ถึงแม้มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หากยังมีพรรคก้าวไกลอยู่ด้วย ก็ชัดเจน เพราะก้าวไกลก็หมายถึงการแก้ไขมาตรา 112 ถ้ามีพรรคใดอยากแก้ไขมาตรานี้อยู่ เราก็จะไม่ร่วมสนับสนุน แต่กรณีของเพื่อไทยเป็นแกนนำ ก็ต้องฟังมติของพรรคภูมิใจไทยก่อน
นายชาดา ยังย้ำจุดยืนของพรรคว่า ชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยกับการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย เราให้เกียรติคะแนนที่ได้รับจากประชาชน
"แต่คะแนนที่พรรคอันดับ 1 ได้ ไม่ใช่คะแนนที่ชนะขาด และไม่ได้ผูกขาดความเป็นนายกฯ อยู่คนเดียว แต่เป็นมารยาทของนักการเมือง ที่ให้พรรคอันดับหนึ่งก่อน แต่กฎหมายไม่ได้กำหนดไว้ ว่าพรรคอันดับ 1 ต้องเป็น และคนอื่นเป็นไม่ได้ อย่างที่ด้อมส้มออกมา เบี่ยงเบนแบบนั้นไม่ใช่"
เมื่อถามถึงกรณีการตีความว่าจะเสนอชื่อ นายพิธา ซ้ำอีกครั้งได้หรือไม่ เพราะบางฝ่ายมองว่าไม่ได้ เนื่องจากเป็นญัตติที่ตกไปแล้ว นายชาดา ระบุว่า อย่าให้พูดดีกว่า ไม่ใช่นักกฎหมาย แต่ทุกคนก็มีจุดยืนอยู่ในใจอยู่แล้ว ส่วนถ้าเสนอชื่อ นายพิธา มาเหมือนเดิม จะโหวตสวนหรือไม่ ต้องฟังมติพรรคก่อน แต่ส่วนตัวมองว่า ถ้าเป็นคุณพิธา ก็ชัดเจน ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอยู่แล้ว
ส่วนกรณีการถือครองหุ้นสื่อ นายชาดา กล่าวว่า เป็นคนละเรื่องกันเลย ไม่ใช่เรื่องในประเทศไทย ไม่ใช่ประเทศไทย อย่าไปเอามาผูกโยงกัน
นายชาดา ยังปฏิเสธว่า ไม่ได้มีตัวแทนจาก 8 พรรคร่วมรัฐบาล มาขอคะแนนเสียงจากตน แต่ไม่แน่ว่าอาจติดต่อผู้ใหญ่ในพรรคภูมิใจไทย
"เรายื่นมือไปให้เขาแล้ว เมื่อวันที่ 13 ก.ค. แต่เขาไม่รับ ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร เรายื่นมือให้พรรคก้าวไกล เงื่อนไขไม่ยุ่งกับมาตรา 112 พรรคภูมิใจไทยจะลงคะแนนให้ และไม่ร่วมรัฐบาลอย่างชัดเจน เรื่องนี้จบไปตั้งแต่วันนั้นแล้ว ข้อเสนอของเราจบไปแล้วเขาไม่รับ"
ส่วนวันที่ 19 ก.ค. จะมีข้อเสนอแบบนี้อีกหรือไม่ ต้องถามพรรค เพราะคราวที่แล้วตนเสนอในนามพรรค เราอภิปรายไม่ได้ว่าด่าเขา แต่เสนอทางออกให้ หาทางออกให้ประเทศ แต่ก็โดนพรรคก้าวไกลย้อนมาว่า 'พูดแล้วทำ' ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว พร้อมย้ำว่า โอกาสคงไม่มีมาบ่อยๆ