“วราวุธ” งงข่าวไม่ตรงกัน ปม “ก้าวไกล” ส่ง “เสรีพิศุทธ์” ทาบทามร่วมรัฐบาล ยันต้องมีมติ 8 พรรค รองรับจึงจะให้คำตอบได้ ย้ำจุดยืน ชทพ.ให้ความสำคัญ ม.112 สูงสุด หากเพื่อไทยเป็นแกนนำและเห็นตรงกันก็ร่วมรัฐบาลได้
เมื่อเวลา 09.13 น.วันที่ 18 ก.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ทาบทามให้พรรค ชทพ.เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล ว่า จากกระแสข่าวที่ออกมาตนค่อนข้างสับสน เพราะมีแกนนำพรรคก้าวไกลให้สัมภาษณ์ในแนวทางที่แตกต่างกัน บางท่านก็บอกว่าไม่ได้ติดต่อ ซึ่งตนมองว่า การจะเชิญพรรคไหนเข้าร่วมรัฐบาล ต้องดูว่าเป็นมติของพรรคก้าวไกลหรือไม่ และที่สำคัญ ต้องเป็นการจะต้องเป็นความเห็นชอบของทั้ง 8 พรรคหรือไม่ เพราะหากมีการเชิญเข้ามาแล้วและไม่มีการยืนยันว่าเป็นความเห็นชอบของทุกฝ่ายร่วมกันก็คงยังไม่สามารถให้คำตอบได้ ย้ำว่า เรายังยืนยันในจุดยืนเดิมในเรื่องมาตรา 112 ว่า ยึดมั่นแนวทางการทำงานเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และไม่คิดว่าประเด็นมาตรา 112 เป็นปัญหา
เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกล ระบุว่า ไม่ได้เป็นคนให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มาติดต่อพรรค ชทพ. นายวราวุธ กล่าวว่า จะเป็นใครก็แล้วแต่ต้องได้รับการมอบหมายโดยมีมติพรรคมารองรับ หรือความเห็นชอบจาก 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล
เมื่อถามต่อถึงกรณีพรรคเพื่อไทยจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจุดยืนพรรค ชทพ.เป็นอย่างไร นายวราวุธ กล่าวว่า จะเป็นพรรคใดก็แล้วแต่ประเด็นเรื่องมาตรา 112 แนวทางการทำงานยังไม่ได้เปลี่ยนแปลง ไม่ใช่ว่าเรื่องเดียวกันพรรคนี้รับได้พรรคนี้รับไม่ได้ ทั้งนี้ มาตรา 112 พรรค ชทพ. ให้ความสำคัญเป็นอันดับสูงสุด ถ้าหากพรรคเพื่อไทยไม่มีแนวทางที่จะแก้ไขก็น่าจะพูดคุยกันได้ ยืนยันว่าขณะนี้ไม่ได้มีการพูดคุยกับพรรคเพื่อไทย แต่ในฐานะที่เป็นคนการเมืองด้วยกัน ก็มีการพูดคุยกันตามประสาพี่น้อง
ส่วนการเทียบเชิญจริงจังนั้น นายวราวุธ กล่าวว่า ยังไม่มี อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 19 ก.ค.พรรค ชทพ. จะมีการประชุมกันก่อนในช่วงเช้าก่อนโหวตนายกฯ รอบสอง ย้ำว่า ขออย่ากังวลกรณีมีกระแสข่าวเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยยิ่งพรรค ชทพ. มีแค่ 10 เสียง และเราก็ไม่เห็นด้วยกับการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย
เมื่อถามถึงกรณีมีกระแสข่าวการแจกกล้วยให้ ส.ส. 8 พรรคร่วม นายวราวุธ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่ที่แน่ๆ พรรค ชทพ.ไม่มีกล้วย ตอนนี้ตังค์ไม่มี อย่างไรก็ตาม ตนมองว่า การเมืองยังต้องจับตา เพราะหลังการเลือกตั้งและมีการจัดตั้งรัฐบาลสถานการณ์เปลี่ยนได้ตลอดในทุกชั่วโมง สิ่งที่เกิดในวันนี้ไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่ มีทั้งนโยบายต่างๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน และมีมิติอื่นๆ ก็จะรู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกใหม่ แต่ตามหลักการและแนวทางในภาพรวมแล้วการเจรจาของแต่ละฝ่ายที่มีข่าวออกมา ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร
เมื่อถามต่อถึงกรณีหากมีการเปลี่ยนตัวผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ มาเป็น นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ อันดับ 2 พรรคเพื่อไทย จะโหวตให้หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ตอนนี้เรายังไม่รู้เลยว่าท้ายที่สุดแล้วจะเป็นใคร จึงเป็นเหตุที่พรรค ชทพ.จะต้องมีการพูดคุยกันก่อนโหวตนายกฯ รอบสองในวันที่ 19 ก.ค.นี้
เมื่อถามย้ำว่า หากพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจะต้องไม่มีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาลหรือไม่ เพราะเกี่ยวข้องกับจุดยืนมาตรา 112 นายวราวุธ กล่าวว่า ตนคงตอบแทนพรรคเพื่อไทยไม่ได้ แต่หากแนวทางเรื่องมาตรา 112 ไม่ตรงกันต่างคนต่างทำงานดีกว่า
ส่วนการแก้ไขมาตรา 272 นั้น นายวราวุธ กล่าวว่า หากดูจากบรรทัดแรกของมาตราดังกล่าว ภายในระยะเวลา 5 ปี ก็หมายความว่ามันเหลือเวลาเพียงนิดเดียว ดังนั้น เรามองว่าการแก้ไขมาตรา 272 ไม่ใช่ประเด็นที่ต้องเร่งรีบมากกว่าการหาตัวนายกฯ