“ภูมิธรรม” ซัด “ก้าวไกล” มัดมือชก ประกาศสู้ 2 สมรภูมิ ไม่ใช่วาระร่วมของ 2 พรรค อยู่นอกเหนือเอ็มโอยู ชี้ แก้ ม.272 เป็นได้แค่สัญลักษณ์ ไม่มีทางชนะ เร่งตั้งรัฐบาลต่างหาก คือ วาระประเทศ เอาปัญหาประชาชนเป็นตัวตั้ง ไม่ใช่โหวตนายกฯ ไปเรื่อยๆ ลั่นเพื่อไทยพร้อมเสนอชื่อนายกฯ หาก 8 พรรค มีความชัดเจน
วันนี้ (17 ก.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงกรณี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ประกาศว่า จะต่อสู้ใน 2 สมรภูมิ คือ การโหวตนายกฯ รอบสอง และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.272 เพื่อปิดสวิตช์ ส.ว. ว่า ไม่เข้าใจว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะการเปิดสมรภูมิใหม่ของพรรคก้าวไกล เป็นการเสนอประเด็นที่อยู่นอกเหนือเอ็มโอยูที่ 8 พรรคทำร่วมกัน
ส่วนที่บอกว่าจะต่อสู้จนประสบความสำเร็จ หากไม่สามารถไปได้แล้วจะมอบโอกาสให้กับพรรคอันดับ 2 เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า การพูดเช่นนี้ฟังดูดี แต่ทั้ง 2 ประเด็น มีความยากลำบาก และไม่มีกรอบเวลาชัดเจน
นายภูมิธรรม กล่าวว่า การแก้ไข ม.272 เป็นได้เพียงสัญลักษณ์ ไม่ได้รับชัยชนะ แต่การเร่งตั้งรัฐบาลจะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญตามที่พรรคเพื่อไทยได้เสนอเป็นนโยบายไว้ว่าจะแก้ทั้งระบบ ถือเป็นวาระสำคัญ แต่การเปิดวาระใหม่ของพรรคก้าวไกล เป็นการเสนอนอกเหนือเอ็มโอยู
รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวอีกว่า การที่นายพิธาและพรรคก้าวไกลนำเสนอเรื่องดังกล่าวต่อสาธารณชน ไม่ใช่วาระของทั้ง 2 พรรค เราตกลงกันว่าจะกลับไปคุยในพรรคตัวเอง แต่ที่นายพิธาออกมาพูดเช่นนี้เหมือนมัดมือชก เราจึงจำเป็นต้องออกมาพูดความจำเป็นและความเป็นจริงให้ทราบ
นายภูมิธรรม กล่าวว่า สิ่งที่ตนกล่าวไม่ใช่ความขัดแย้งหรือโกรธกัน แต่เราจะเสนอความเห็นอย่างตรงไปตรงมา ว่า วาระประเทศและวาระประชาชนคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่ใช่วาระของพรรคก้าวไกล หรือวาระของนายพิธา วันนี้อยากให้เปิดใจให้กว้างแล้วเอาวาระประชาชนเป็นที่ตั้ง วาระประเทศเป็นที่ตั้ง
การที่นายพิธาพูดว่าเวลานี้ อนาคตของพรรคก้าวไกล และอนาคตของประชาชนอยู่ในมือของประชาชนแล้ว ตนคิดว่าอย่าเอาประชาชนเป็นตัวประกัน วันนี้ประเทศชาติและปัญหาประชาชนอยู่ในมือพรรคก้าวไกล และนายพิธาจึงต้องหยิบเอาปัญหาและวาระของประชาชนเป็นที่ตั้งแล้วตัดสินใจ ถ้าการตัดสินใจครั้งนี้ผิดพลาด ปัญหาประชาชนจะลำบากต้องอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปอีกนาน และจะรักษาการไปเรื่อยๆ แต่ถ้าตัดสินใจถูกต้องปัญหาจะคลี่คลาย อยากให้นายพิธา และพรรคก้าวไกลนำไปคิด
ส่วนเรื่องการเปลี่ยนตัวแคนดิเดตนายกฯ นายภูมิธรรม กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย ไม่มีแผนสำรอง มีแผนแรกแผนเดียว เราอยากจับมือกับ 8 พรรคร่วมเดินหน้าไปให้ถึงที่สุด แต่ต้องมีคำตอบที่ชัดเจน ไม่ใช่ปล่อยให้มีการเลือกไปเรื่อยๆ โดยที่ประเทศไม่รู้ว่าทางออกจะเป็นอย่างไร เรารอไปถึงต้นปีหน้าไม่ได้ เพราะปัญหาประเทศตอนนี้รุนแรงมาก ไม่ต้องห่วงเรื่องแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ซึ่งมีอยู่แล้ว 3 คน หากวันไหนชัดเจนให้พรรค เพื่อไทยเสนอ เราสามารถเสนอได้ แต่ไม่ใช่วาระสำคัญเราไม่คิดเรื่องนี้ก่อน เราคิดถึงการหาทางออกให้กับประเทศ 8 พรรคการเมืองเสนอนายพิธา ถ้าไม่ได้จะมีวิธีไหนที่ 8 พรรค จะดำเนินการร่วมกันให้ชนะ
เมื่อถามว่า การพูดคุยวันนี้จะต้องเตรียมแคนดิเดตนายกฯ สำรองไว้เลยหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ความเป็นจริงเรารู้อยู่แล้วว่าแคนดิเดตของเราเป็นอย่างไร ถ้าบอกว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้คิดเลย ก็เท่ากับโกหก เราคิดทางออกแต่ยังพูดไม่ได้ เพราะอยากให้ชัดเจนถึงการมุ่งหน้าสนับสนุนความร่วมมือของ 8 พรรค จนถึงเวลาจำเป็นแล้วถึงจะเสนอ และชัดเจนจะไม่มีคนนอก ขอให้สบายใจว่าหากถึงเวลาต้องเสนอ พรรคเพื่อไทยมีคนเข้าไปทำงานแน่นอน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับแคนดิเดตทั้ง 3 คน เพราะเรามุ่งหน้าทำเรื่องการเสนอนายพิธาเป็นเรื่องหลัก
เมื่อถามถึงกระแสข่าว ส.ส.พรรคเพื่อไทย และ พรรคก้าวไกล ไปพูดคุยกับรัฐบาลเดิมหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราได้ยินข่าวดังกล่าวแต่เมื่อเป็นข่าวลือเราไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ สิ่งที่สำคัญคือกลับไปตรวจสอบคนของตัวเอง เพราะประวัติศาสตร์การเมืองไทย เรื่องการแจกกล้วย เรื่องงูเห่าเคยเกิดมาแล้ว เราเสนอให้เกิดการระมัดระวัง เราต้องให้เกียรติ ส.ส.ทั้ง 2 พรรค และในส่วนของพรรคเพื่อไทยได้ให้แกนนำแต่ละส่วนไปพูดคุยกับ ส.ส.เพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้น