หัวหน้าก้าวไกล ลั่นกลางสภา ขอเป็นผู้นำประเทศ ประชุมสหประชาชาติที่นิวยอร์ก ฟื้นสัมพันธ์ต่างชาติ ยืนยัน ประเทศไทยจะเป็นรัฐเดี่ยวที่ก้าวหน้า โต้แยกดินแดน
วันนี้ (13 ก.ค.) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล ขอให้สิทธิพาดพิง อภิปรายโดยแสดงความเห็นด้วยกับดำริของ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ที่ปฏิบัติทำหน้าที่แทนประธานรัฐสภา ว่า วันนี้เป็นวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ไม่ใช่วาระเกี่ยวกับการแก้กฎหมาย หลายข้อที่มีความคลางแคลงใจ ขอไม่ลงรายละเอียดเพิ่ม เนื่องจากได้อภิปรายไปในรอบแรกแล้ว กฎหมายใดที่จะเข้าสู่รัฐสภาสามารถพูดคุยกันได้อย่างมีวุฒิภาวะ มีข้อบังคับและความโปร่งใส ซึ่งตรงกับสมมติฐานที่ตนเองคิดไว้ตั้งแต่สมัยการประชุมที่แล้ว
นายพิธา กล่าวต่อว่า มีเรื่องที่พาดพิงพรรคก้าวไกล ทำให้เสียหายอยู่ 3 เรื่อง ได้แก่ เรื่องแรกการต่างประเทศ เราต้องรีบเลือกนายกฯ เพราะเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ จะมีการประชุมสหประชาชาติที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ตนเองต้องการเป็นผู้นำของประชาชนไปบอกกับโลก ว่า ประเทศไทยพร้อมแล้ว ประเทศไทยกลับมาแล้วที่จะมีบทบาทที่ดี กังวลใจที่วันนี้อภิปรายพูดถึงทหารยิงประชาชน พาดพิงถึงประเทศเพื่อนบ้าน หากเป็นตนเองจะระมัดระวังคำพูดที่จะพาดพิงประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิด มีแรงงานอยู่ในเมืองไทย 2 ล้านกว่าคน เศรษฐกิจเราขับเคลื่อนได้เพราะพวกเขา
ส่วนเรื่องการแบ่งแยกดินแดน พื้นที่ชายแดนใต้ติดกับประเทศมาเลเซีย มีปัญหาความเหลื่อมล้ำ ปัญหาความยากจน เป็นพื้นที่ที่ทำให้เกิดปัญหายาเสพติดและน้ำมันเถื่อน ขอให้คำยืนยันว่ารัฐไทยภายใต้การนำของ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ประเทศไทยจะเป็นรัฐเดี่ยว จะทำทุกวิธีทางให้รัฐไทยเป็นรัฐเดี่ยวที่ก้าวหน้า ลดความมั่นคงทางทหาร เพื่อแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำลดความยากจน สำหรับพรรคการเมืองที่มีความเห็นต่าง จะขอใช้พื้นที่สภาฯ พูดคุย ปกป้อง ป้องกันการแบ่งแยกดินแดนให้ดีที่สุด สนับสนุนพหุวัฒนธรรม และสนับสนุนทุกศาสนา เป็นคำมั่นสัญญาในฐานะว่าที่นายกรัฐมนตรี
สุดท้ายปัญหายาเสพติดและน้ำมันเถื่อน ช่วง 4 ปีที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลยืนยันชัดเจนทั้งเรื่องการปฏิรูปตำรวจ การนำเอาเทคโนโลยีมาช่วยบริหารจัดการกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีปัญหาการนำยาเสพติดเข้ามา ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ซึ่งจะเป็นเรื่องที่พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลใส่ใจอย่างแน่นอน