xs
xsm
sm
md
lg

“ทนายอั๋น” ควงมือตบ “พี่ศรี” ยื่นศาล รธน.ขอให้ระงับคำร้อง “พิธา” จ่อฟัน กกต.ผิด ม.157

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ทนายอั๋น” ควง “ลุงศักดิ์” มือตบ “ศรีสุวรรณ” ยื่นศาล รธน.ขอให้ปัดตกคำร้อง กกต.วินิจฉัยฟัน “พิธา” ปมถือหุ้นสื่อ จ่อฟ้อง กกต.ทำผิด ม.157

วันนี้ (13 ก.ค.) นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น บุรีรัมย์ พร้อมด้วย นายวีรวิทย์ รุ่งเรืองศิริผล หรือ ลุงศักดิ์ ซึ่งเคยก่อเหตุทำร้ายร่างกาย นายศรีสุวรรณ จรรยา เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงประธานศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ยกคำร้องที่ กกต.ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการขาดคุณสมบัติ ส.ส.ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98(3) ประกอบรัฐธรรมนูญมาตรา 101(6) จากเหตุ ถือหุ้น itv โดยนายภัทรพงศ์ กล่าวว่า ตนเห็นว่ามาตรา 82 วรรคสี่บัญญัติว่า กรณีที่ กกต.เห็นว่า ส.ส. หรือ ส.ว. คนไหนมีสมาชิกภาพสิ้นสุดลง ให้ กกต.ส่งเรื่องยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย แต่ก็ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ กกต.ต้องดำเนินการภายใต้ระเบียบ กกต. ว่าด้วยการสืบสวนไต่สวน วินิจฉัยชี้ขาด 2561 มาแล้ว แต่ที่ตนและคนไทยเคลือบแคลงสงสัย คือ กกต.ได้ดำเนินการตามขั้นตอน ระเบียบดังกล่าวมาก่อนหรือไม่ เพราะเรื่องการไต่สวน สอบสวนนั้นระบุชัดเจนว่า ต้องเป็นการรวบรวมหลักฐานทั้ง 2 ฝ่าย พิสูจน์ความผิด และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนายพิธา แต่จะเห็นว่า กกต.ไม่ได้ดำเนินการในส่วนนี้ ตนจึงมายื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอให้วินิจฉัยเรื่องนี้อย่างละเอียด เอาหลักกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งมวล รักษาไว้ซึ่งมาตรฐานความยุติธรรม เพื่อความสุขแก่คนไทย


นายภัทรพงศ์ กล่าวว่า ตอนนี้หลักฐานที่ กกต.ส่งมาที่ศาลรัฐธรรมนูญนั้น มีเพียงข้อมูลในส่วนของ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ นายศรีสุวรรณ จรรยา นายเสรี สุวรรณภานนท์ นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว. ที่ยื่นมาเท่านั้น ส่วนที่ตนยื่น 2-3 ครั้งที่ผ่านมา อาจจะมีการรวมส่งมาด้วย แต่ก็เชื่อว่า ไม่น่าจะรวมส่งมา วันนี้จึงได้นำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวนไต่สวน และวินิจฉัยชี้ขาด ปี 2561 มายื่นต่อศาลฯเพื่อประกอบการพิจารณาวินิจฉัยปัดตกคำร้องของ กกต.ด้วย ซึ่งทราบว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีการประชุมในวันที่ 19 ก.ค.นี้

เมื่อถามว่า มองเรื่องนี้ว่า เป็นการกลั่นแกล้งหรือไม่ นายภัทรพงศ์ กล่าวว่า สิ่งที่เขาคิดนั้น ตนคิดไม่ทัน เพราะหัวใจคนละอันกัน แต่สิ่งที่เห็นคือการทำไม่ถูกต้องตามระเบียบ ขั้นตอนที่ควรจะเป็นไป ทั้งนี้ ตนซึ่งต่อสู้เรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น แม้ว่าอาจจะไม่ได้มาในฐานะของนายพิธา แต่มาในฐานะของพลเมือง ที่เห็นว่าเรื่องนี้ไม่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม เมื่อมายื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญแล้ว อาจถือว่าสิ้นสุดประบวนการที่ตนจะทำได้ แต่เมื่อประชาชนฝากความหวังไว้กับตน ต้องการเห็นตนเอาให้สุดกับ กกต.วันนี้ (13 ก.ค.) ก็จะไปยื่น กกต.ขอให้เปิดเผยข้อมูลสำนวน หลักฐานที่ใช้วินิจฉัยว่าเป็นอย่างไรถึงได้มั่นหน้ามั่นโหนก ชี้ว่า นายพิธามีความผิดและตนอาจจะดำเนินการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ที่ศาลอาญารัชดา ต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น