ศาล รธน.แจ้ง สนง.รับคำร้อง กกต.ปม “พิธา” ถือหุ้น itv ในทางธุรการแล้ว แถมเคราะห์กระหน่ำซ้ำยังรับวินิจฉัยปมยกเลิก ม.112 เข้าข่ายล้มล้างการปกครองสั่งเจ้าตัว-ก้าวไกล แจงใน 15 วัน
วันนี้ (12 ก.ค.) สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ แจ้งว่า วันนี้ เวลา 15:15 น. กกต. ยื่นคำร้องฉบับลงวันที่ 12 ก.ค. 66 พร้อมเอกสารประกอบคำร้องเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพของ ส.ส.ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101(6) ประกอบมาตรา 98(3) หรือไม่ ซึ่งสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญลงรับคำร้องในทางธุรการแล้ว จะได้นำเสนอคำร้องดังกล่าวต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 49 ต่อไป
ขณะที่ต่อมาศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยในคำร้องที่ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 ว่า การกระทำของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ผู้ถูกร้องที่ 1 และพรรคก้าวไกล ผู้ถูกร้องที่ 2 ที่เสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาฉบับที่...พ.ศ...เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้งและยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่ง หรือไม่ หลังพิจารณาแล้วเห็นว่าข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องเป็นกรณีที่นายธีรยุทธ ขอให้ศาลวินิจฉัยว่าการกระทำของนายพิธา และพรรคก้าวไกล เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 หรือไม่ ซึ่งนายธีรยุทธได้ยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุด เพื่อร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคสอง แล้วแต่อัยการสูงสุดไม่ได้ดำเนินการตามที่ร้องขอภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอ กรณีจึงเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคสาม ที่นายธีรยุทธจะยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ และเมื่อศาลมีคำสั่งรับคำร้องนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัยตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 7(3) แล้ว แจ้งให้นายธีรยุทธทราบ และให้ นายพิธา และพรรคก้าวไกลยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้องตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 54 และเพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณาแจ้งอัยการสูงสุดว่าหากอัยการสูงสุดได้รับพยานหลักฐานใดเพิ่มเติมให้จัดส่งศาลรัฐธรรมนูญโดยเร็ว