วันนี้ (12 ก.ค.) ได้มีการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 26 อย่างเป็นทางการนัดแรก โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นำทีมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส. ).พปชร 39 คน เข้าร่วมประชุมสภาอย่างพร้อมเพรียง ทั้งนี้ในที่ประชุมได้รับทราบพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ประกาศแต่งตั้งประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยให้สมาชิกทุกท่านยืนขึ้นเพื่อรับฟังพระบรมราชโองการ โดยเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้อ่านพระบรมราชโองการ
โดยวาระสำคัญในการประชุมสภาฯ วันนี้ คือการกำหนดวันและเวลาการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณา กฎหมาย ญัตติ และแก้ไขปัญหาพี่น้องประชาชนผ่านกลไกสภา และการกำหนดวันเริ่มสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่สองตามมาตรา 121 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ด้าน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ อาทิ นายอนันต์ ผลอำนวย ส.ส.เขต 3 จ.กำแพงเพชร กล่าวอภิปรายว่า ตนเห็นว่า ควรยึดระเบียบในการประชุมเหมือนที่ผ่านมา ก็คือการประชุม 2 วันต่อสัปดาห์ เพราะการจะประชุมกี่วันนั้นไม่สำคัญเท่ากับการควบคุมการประชุมให้มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ตามข้อบังคับการประชุมสภา ประธานสภาก็มีอำนาจสามารถเรียกประชุมเพิ่มเติมได้ ตามความจำเป็นและเร่งด่วนได้
ด้านนายอรรถกร ศิริลัทยากร ส.ส.เขต 2 ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ได้กล่าวอภิปรายว่า การประชุมในวันนี้ถือเป็นการวางกรอบการทำงานร่วมกัน โดย ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ มีความคิดเห็นว่า ในการประชุมสภาเราควรที่จะคงไว้ที่ 2 วันเช่นเดิม ตนขอย้อนไปดูการประชุมในสมัยประชุมที่ผ่านมา จะพบว่า เราเสียเวลาไปมาก จากปัญหาการอภิปรายของเพื่อนสมาชิกบางคนที่ยืดเยื้อ ทำให้การพิจารณากฎหมายและญัตติต่าง ๅ ล่าช้าออกไป อย่างไรก็ตามการใช้เวลาเยอะไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่หากเราต้องการให้การประชุมมีประสิทธิภาพให้สำเร็จ ลุล่วงตามเป้าหมายที่เราวางเอาไว้ เราก็ต้องบริหารเวลา ซึ่งหากช่วงใดที่เราพิจารณากฎหมายล่าช้าเกินกว่าที่กำหนดไว้ ก็สามารถเพิ่มวันประชุมเป็นวันอังคารหรือวันศุกร์ก็ได้ตามความเหมาะสม
"ผมเคยเข้าสภามาทั้งแบบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ ส.ส.เขต ทำให้ผมเข้าใจภารกิจหน้าที่ ส.ส.ทั้ง 2 แบบดี อย่างเช่น ส.ส.เขต ก็จะเข้าลงพื้นที่รับฟังปัญหาของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ"