"ส.ว.สมชาย" เตือนกกต.ระวังเจอ ม.157 จี้เร่งส่งศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย "พิธา" ปมม.151 ด้าน "ส.ว.สังศิต" ประกาศจุดยืนเลือก "นายกฯ" 13 ก.ค.นี้ ยึดหลักธรรมตัดสินใจ
วันที่ (9 ก.ค.2566) นายสมชาย แสวงการ ส.ว. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุกส่วนตัว ระบุว่า
" #เตือนความจำ
#กกตมีหน้าที่ส่งศาลรัฐธรรมนูญ
#แม้อาจลืมม151แต่ต้องไม่ลืมม157
ขอหยิบยกกฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ และประมวลกฎหมายอาญาที่เกี่ยวข้อง
มาเตือนสติอีกครั้งพร้อมฝากความห่วงใยไปยังกกต .ว่า
ตามที่กกต ได้ใช้พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา151 ด้วยเหตุรู้อยู่แล้วว่า นายพิธาไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งแต่ยังฝืนมีโทษจำคุก-ปรับ-
ตัดสิทธิ 20 ปี โดยถือว่าเรื่องนี้กกต.เป็นเจ้าภาพเองนั้น
คณะกรรมการการเลือกตั้งหรือกกต.มีหน้าที่และอำนาจ
ควรต้องเร่งพิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา82วรรคท้าย ว่า นายพิธา ขาดคุณสมบัติส.ส. เพราะมีลักษณะ
ต้องห้ามตามมาตรา98(3)เรื่องถือหุ้นสื่อมวลชน และอื่นๆ
อันจะเป็นการขาดคุณสมบัติแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีตามมาตรา88 ,89, 160 ด้วยหรือไม่
บัดนี้เวลาล่วงเลยมานานมากแล้ว
กกต.สมควรชี้แจงให้ทราบผลสรุปของคณะทำงานและมติกกต.ในเรื่องนี้อย่างไร
ถ้าหากกกต.มีมติว่า ขาดคุณสมบัติส.ส. และรู้อยู่แล้วว่า ไม่มีสิทธิรับสมัครรับเลือกตั้งอันเป็นความผิดตามมาตรา151ด้วย
สมควรที่กกต .จะได้ส่งศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยตามแนวทางเดิมที่เคยดำเนินคดีนายธนาธร กรณีถือหุ้นสื่อ คือ
1)ขอให้วินิจฉัยว่า นายพิธา ขาดคุณสมบัติ สส ตามมาตรา 98(3)
2)ขอให้วินิจฉัยว่า ขาดคุณสมบัติผู้ที่สภาจะพิจารณาเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 88 89 160 98(3) ด้วยหรือไม่
3)ขอให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย
จึงเรียนมาด้วยความห่วงใยและความปรารถนาดี ว่า หากกกต.ปล่อยเรื่องนี้ล่าช้าเนิ่นนานวันไป
อาจมีบุคคลไปกล่าวโทษร้องทุกข์ว่า ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา157 ได้ครับ"
ด้านนายสังศิต พิริยะรังสรรค์ ส.ว. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุก ระบุว่า
" สังศิต ประกาศท่าทีเลือกนายกรัฐมนตรีวันที่ 13 กรกฎาคม ศกนี้
จุดยืนของผมในการเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 13 กรกฎาคม 2566 ณ สัปปายะสถาน อันแปลว่า ” สถานที่ประกอบกรรมดี”
ผมจะ น้อมนำคำกล่าวของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) มาเป็นหลักในการลงคะแนนเสียง เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ กล่าวไว้ว่า
“จะใช้ท่าทีวางเฉยต่อคน เพื่อรักษาธรรม
ไม่เห็นแก่คน-แต่เห็นแก่ธรรม
วางตัวเป็นกลางต่อคน
ไม่ขวนขวายช่วยคน เชียร์คน
เพื่อที่จะได้ไม่ก้าวก่ายแทรกแซงธรรม
หรือเพื่อให้เป็นไปตามธรรม “
สมเด็จพระพุทธโฆษาจาร์ย (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)
สวัสดีครับ … จากผมเอง
สังศิต พิริยะรังสรรค์
วุฒิสมาชิกและประธานคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำวุฒิสภา"