โฆษกรัฐบาล เผย อัตราเงินเฟ้อไทย เทียบกับเงินเฟ้อของเขต ศก.ต่างๆ (เดือน พ.ค. 2566 เทียบกับ พ.ค. 2565) พบว่า เงินเฟ้อของไทยสูงขึ้น 0.53% (YoY) อยู่ต่ำเป็นอันดับที่ 6 จาก 134 เขตเศรษฐกิจที่มีการประกาศตัวเลข
วันนี้ (9 ก.ค.) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการจัดอันดับอัตราเงินเฟ้อ เดือนพฤษภาคม 2566 ว่า อัตราเงินเฟ้อของไทย เมื่อเทียบกับเงินเฟ้อของเขตเศรษฐกิจต่างๆ (เดือน พ.ค. 2566 เทียบกับ พ.ค. 2565) พบว่า เงินเฟ้อของประเทศไทยสูงขึ้น 0.53% (YoY) อยู่ต่ำเป็นอันดับที่ 6 จาก 134 เขตเศรษฐกิจที่มีการประกาศตัวเลข โดยเรียงจากเงินเฟ้อต่ำสุดไปเงินเฟ้อสูงสุด (ข้อมูล ณ วันที่ 26 มิถุนายน 2566 อ้างอิง เว็บไซต์ tradingeconomics) ซึ่งหากพิจารณาแล้ว เงินเฟ้อไทยถือว่าอ่อนตัวในระดับเหมาะสม และยังอยู่ในภาวะที่สอดคล้องกับสถานการณ์ ทั้งราคาเชื้อเพลิง ราคาอาหารสด-เนื้อสัตว์ และฐานเงินเฟ้อในปีก่อนหน้าค่อนข้างสูงมาก ผลจากราคาน้ำมันปีก่อน เคลื่อนไหวเกิน 95 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แต่ขณะนี้เคลื่อนไหว 74-75 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จึงมีผลต่อสินค้าและบริการสูงกว่าปีนี้ และมีผลต่อเงินเฟ้อสูง
“พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการอย่างต่อเนื่อง ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาสถานการณ์และดำเนินนโยบายประเทศ อย่างสอดคล้องกับสภาวการณ์ โดยประเมินความท้าทายจากกระแสโลกควบคู่กันไป เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศไทย” นายอนุชา กล่าว