xs
xsm
sm
md
lg

“ร่มธรรม” หวัง กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แก้ปัญหาโลกร้อนเร่งด่วน หวั่น กระทบความมั่นคงด้านอาหาร สุขภาพ ปากท้อง ปชช.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันนี้(7 ก.ค.)นายร่มธรรม ขำนุรักษ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.พัทลุง เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา เห็นชอบเปลี่ยนชื่อ “กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม” เป็น “กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม” เพื่อให้เป็นหน่วยงานขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศ โดยระบุว่า นับเป็นสัญญาณที่ดีที่ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะรัฐบาลที่เป็นตัวแปรสำคัญในการออกนโยบายหันมาใส่ใจและตระหนักกับปัญหาสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น เพราะปัญหาโลกร้อน โลกรวน หรือปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ถือเป็นปัญหาที่ใหญ่และท้าทายสำหรับประเทศไทยและสังคมโลก โดยเกิดจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกปริมาณมหาศาลจากกิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ ที่สวนทางกับพื้นที่ป่าและธรรมชาติซึ่งเป็นแหล่งดูดซับก๊าซเรือนกระจกที่สำคัญที่สุดที่กำลังลดลงอย่างน่าใจหาย ทำให้ปัจจุบันโลกร้อนขึ้นเฉลี่ย 1.1 องศาเซลเซียสจากอุณหภูมิเฉลี่ยก่อนเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม ส่งผลให้โลกต้องเผชิญกับปัญหาความร้อน ความแห้งแล้ง ไฟป่า การละลายของน้ำแข็งขั้วโลก ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น ไปจนถึงฝนตก พายุ และน้ำท่วมที่รุนแรงมากขึ้น รวมทั้งส่งผลกระทบต่อมนุษย์ทั้งในด้านความมั่นคงทางอาหาร สุขภาพ เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ซึ่งประเทศไทยถูกจัดเป็นอันดับที่ 9 ของประเทศที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติทางสภาพภูมิอากาศมากที่สุดในช่วงปี ค.ศ. 2000 - 2019
 
นายร่มธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการแก้ปัญหาในระดับโลกนั้น ได้มีการร่วมมือกันในความตกลงปารีส หรือ Paris Agreement ซึ่งเป็นความตกลงตามกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change-UNFCCC) เพื่อกำหนดมาตรการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 และตั้งเป้าหมายไม่ให้โลกร้อนเกิน 1.5 - 2 องศาเซลเซียส เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างรุนแรง ด้วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างเร่งด่วน ควบคู่ไปกับการปรับตัวและรับมือกับความเสี่ยงต่อภัยพิบัติต่างๆ โดยประเทศไทยได้ตั้งเป้าหมายเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ในปี พ.ศ. 2593 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ในปี พ.ศ. 2608 ดังนั้น กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (Department of Climate Change and Environment) ภายใต้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ได้มีการทบทวน ปรับปรุงบทบาท อำนาจหน้าที่ ภารกิจ และโครงสร้างหน่วยงาน ให้สอดคล้องกับเป้าหมายในการจัดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จึงกลายเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายตามความร่วมมือดังกล่าว และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวนอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อประโยชน์กับสังคมไทยและสังคมโลก

“ จากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ประเทศไทยและโลกของเรากำลังเผชิญในขณะนี้ และอาจจะเผชิญผลกระทบที่รุนแรงมากขึ้นในอนาคต ผมจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเป็นกำลังสำคัญในการร่วมมือกันแบบบูรณาการ เพื่อแก้ไขปัญหาที่ท้าทายนี้อย่างเร่งด่วน ทั้งนี้เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของพี่น้องประชาชน และลูกหลานในอนาคต “ นายร่มธรรม กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น