ป.ป.ช.เปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” กรณีพ้นตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล รวย 85 ล้านบาท โรงเรือนสิ่งปลูกสร้างเป็นห้องชุด 1 ห้อง ที่วัฒนา กทม. มีใบจองรถ Tesla สะสมสูท-นาฬิกา-พระเครื่อง พบ หุ้น บ.ไอทีวี 42,000 หุ้น ยื่นในฐานะผู้จัดการมรดก โฉนดที่ดิน ปราณบุรี ประจวบฯ 14 ไร่ หนี้ค้ำประกัน 19.9 ล้าน แจ้ง วันที่ทราบมูลหนี้ 14 เม.ย. 63 - หลังเลือกตั้ง 62 สถานภาพโสด - หย่า เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.62
วันนี้(5ก.ค.)สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินของนายพิธาลิ้มเจริญรัตน์ส.ส. บัญชีรายชื่อและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกลกรณีพ้นจากตำแหน่ง ส.ส.เมื่อวันที่ 20 มี.ค 66 โดยนายพิธาแจ้งสถานะหย่าเมื่อวันที่ 9 ธ.ค 62 มีบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 1 คน คือ ด.ญ.พิพิม ลิ้มเจริญรัตน์ และมีทรัพย์สินรวม 85,02 3,720 บาท เป็นเงินสด 1.8 ล้านบาท เงินฝาก 286,045 บาท เงินลงทุน 1,346,698 บาท เงินให้กู้ยืม 15 ล้านบาทแก่นายภาษิณ ลิ้มเจริญรัตน์ เมื่อวันที่ 15 ธ.ค 63 ที่ดิน 1 แปลงเนื้อที่ 14 ไร่ 62 ตารางวา ใน ต.วังก์พง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ มูลค่า 18 ล้านบาทได้มาเมื่อวันที่ 10 เม.ย.60 มูลค่า 18 ล้านบาท และแจ้งได้ทำการขายที่ดินดังกล่าวแล้วแต่ไม่ได้แจ้งมูลค่าการซื้อขาย โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างโดยเป็นห้องชุดย่านคลองตันเหนือ เขตวัฒนากรุงเทพฯมูลค่า 15 ล้านบาท ยานพาหนะ 214,000 บาทโดยเป็นรถยนต์ Majesty ได้มาปี 66 มูลค่า 2 ล้านบาทและรถจักรยานยนต์และจักรยานไฟฟ้ารวม 4 คันมูลค่า 140,000 บาท
สิทธิและสัมปทาน 19,413,985 บาท ซึ่งนอกจากเป็นสิทธิที่ได้จากการประกันชีวิตแล้วยังแจ้งสิทธิในหนังสือ 4 เล่ม คือ วิถีก้าวไกล ความรักคือการตกหลุมรักหลายๆ ครั้ง ,ไม่สนว่าเก่งมาจากไหน ,ด้วยรักจากอนาคต ซึ่งระบุมูลค่าผันแปรตามจำนวนเล่มที่ตีพิมพ์ต่อครั้งโดยเฉลี่ยตั้งแต่ 30,000 -100,000 บาท สิทธิใบจองรถ Tesla มูลค่า 5,000 บาท สมาชิกราชกรีฑาสโมสร 1.5 ล้านบาท
ทรัพย์สินอื่น 12,036,990 บาท อาทิ พระเครื่อง 8 องค์ ได้รับมาจากมรดกโดยชอบด้วยกฎหมายมูลค่า 2 ล้านบาท นาฬิกา 10 เรือนมูลค่า 5,707,900 บาทในจำนวนนี้เป็นนาฬิกา patek 2 เรือน มูลค่า1ล้านบาทและ 2.2 ล้านบาท สูท 16 ตัว 1.2 ล้านบาท เสื้อ 28 ตัว 188,000 บาท อุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้า 28 ชิ้น 1,654,690 บาท รองเท้า 21 คู่ 150,000 บาท เนคไท 76 เส้น 228,000 บาท กล้อง 2 ตัว 641,700 บาท ชุดเฟอร์นิเจอร์ 1 ชุด 1แสนบาท โทรศัพท์ 3 เครื่อง 166,700 บาท เป็นต้น
มีหนี้สินรวม 20,740,176 บาท โดยเป็นเงินเบิกเกินบัญชี 807,414 บาท และหนี้สินอื่น 19,932,762 บาทซึ่งระบุว่าเป็นหนี้ธนาคารยูโอบีจำกัดมหาชน เมื่อวันที่ 14 เม.ย.63 ซึ่งเป็นวันที่ทราบมูลหนี้โดยเป็นหนี้จากการค้ำประกัน
นอกจากนั้นได้แจ้งมีรายได้ต่อปีประมาณ 5,12 3,024 บาท เป็นจากเงินเดือน 1,362,720 บาท รายได้จากการขายคอนโดปี 63 จำนวน 13,673,506 บาท โดยในส่วนนี้เป็นรายได้ในระหว่างการดำรงตำแหน่งเฉลี่ย 3,418,376.5 บาทต่อปี รายได้จากขายรถ 2 คันปี 65 จำนวน 936,000 บาท ซึ่งเป็นรายได้ในระหว่างการดำรงตำแหน่งเฉลี่ย 234 0000 บาทต่อปี รายได้จากการขายหนังสือ 431,712 บาท ซึ่งเป็นรายได้ระหว่างการดำรงตำแหน่งเฉลี่ย 107,928 บาทต่อปี
มีรายจ่ายต่อปีรวม 4,441,208 บาท เป็นค่าใช้จ่ายของตนเอง 3,879,223 บาท ประกอบด้วย ค่าอุปโภคบริโภค 2.4 ล้านบาท ค่าเบี้ยประกัน 80,973 บาท ค่าท่องเที่ยว 1 แสนบาท เงินบริจาค 5,193,000 บาทซึ่งเฉลี่ยเป็นค่าใช้จ่ายในระหว่างการดำรงตำแหน่งปีละ 1,298,250 บาท ค่าใช้จ่ายของบุตร 561,985 บาท โดยเป็นค่าอุปโภคบริโภค 120,000 บาท ค่าเบี้ยประกัน 28,985 บาท ค่าเล่าเรียน 413,000 บาท
ทั้งนี้ นายพิธาแจ้งรายละเอียดของรายการเงินลงทุนว่าลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี BTC 0.07374825 หน่วย มูลค่า 69, 498.75 บาท ใน ETH 0.19718356 หน่วยมูลค่า 11,969 บาท ใน BNB 1.32544858 หน่วย มูลค่า 15,186 บาท ใน ADA 758.99100065 หน่วย มูลค่า 8,927 บาท
มีหุ้นในบริษัทไอทีวี จำกัด (มหาชน) 42,000 หน่วย มูลค่า 44,100 บาท บริษัทสหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด(มหาชน) 830 หน่วย มูลค่า 41.50 บาท บริษัทไทยโรจน์ จำกัด 121 หน่วย มูลค่า 30,250 บาท ซึ่งนายพิธาได้ชี้แจงการถือหุ้นในส่วนของบริษัทไอทีวี ฯ และบริษัทสหวิริยาสตีลอินดัสตรีฯ ว่า ในฐานะผู้จัดการมรดกตามคำสั่งศาลแพ่งกรุงเทพใต้ คดีหมายเลขแดงที่ 1860/2550 ได้รับมอบหมายจากทายาทผู้มีสิทธิ์รับมรดกของนายพงษ์ศักดิ์ ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้ตายให้รับโอนหลักทรัพย์หุ้นนี้อันเป็นกองมรดกถือครองไว้แทนทายาทอื่น
นอกจากนี้ ยังมีหนังสือรับรองจากบริษัทหลักทรัพย์ฟิลิปส์ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) มีเนื้อหาระบุว่า หนังสือฉบับนี้บริษัทขอรับรองว่า นายพิธา เริ่มเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กับทางบริษัทเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.46 โดยมีทรัพย์สินและหลักทรัพย์ฝากไว้กับทางบริษัทคงเหลือ ณ วันที่ 20 มี.ค.66 โดยหนังสือรับรองออกเมื่อวันที่ 13 มิ.ย 66 รวมทั้งยังมีหนังสือทวงหนี้จากบริษัททนายความแจ้งว่า ผิดนัดชำระหนี้ของลูกหนี้บริษัทซีอีโอ อกริฟู้ด จำกัด มูลค่า 70 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบทรัพย์สินที่นายพิธาได้ยื่นต่อ ป.ป.ช.เมื่อครั้งเข้าดำรงตำแหน่ง ส.ส. วันที่ 25 พ.ค.2562 ซึ่งแจ้งมีทรัพย์สินของตน คู่สมรสขณะนั้น และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ รวม 137,785,190 บาท แล้วพบว่าการแจ้งบัญชีทรัพย์สินหนี้สินของนายพิธาครั้งล่าสุดนี้มีทรัพย์สินลดลงจากเดิม 41,381,470 บาท
