สภาโหวตเลือก "ปดิพัทธ์" ชนะ "วิทยา" จากรทสช. 312-105 เสียง ได้นั่งรองปธ.สภาฯ คนที่1 ลั่นพร้อมเป็นกลาง-ยกระดับให้ปชช.มีส่วนร่วมทางการเมืองเต็มที่ ขณะที่ "พิเชษฐ์" นั่งรองปธ.สภาฯคนที่2
วันนี้ (4ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการคัดเลือกตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่1 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอชื่อนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ส่วนนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เสนอชื่อนายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นคู่ชิงตำแหน่ง ทำให้ต้องลงคะแนนเป็นการลับ ผ่านบัตรลงคะแนน
โดยก่อนทำการลงคะแนน ประธานได้ให้ส.ส. แสดงตน พบว่ามีผู้มาแสดงตน 493 คน และได้เข้าสู่การลงคะแนนลับ จากนั้นได้ให้ส.ส. ให้รับบัตรลงคะแนนตามลำดับอักษรเพื่อเขียนชื่อบุคคลที่ตนลงคะแนนให้ก่อนนำไปหย่อนลงในหีบเลือกตั้ง
ขณะที่นายปดิพัทธ์ ได้ แสดงวิสัยทัศน์ตอนหนึ่งว่า เป็นความรับผิดชอบของตนที่จะสนับสนุนองค์กรนิติบัญญัติ และสนับสนุนประธานสภาฯที่ได้รับเลือกจากส.ส.ทั้งนี้ ในกระบวนการนิติบัญญัติแนวทางของตนสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของตน คือ พัฒนากระบวนการนิติบัญญัติให้เป็น Smart Parliament เพื่อให้ได้รับความเชื่อมั่น ศรัทธาจากประชาชนและสากล นอกจากนี้ สภาฯต้องตรวจสอบได้ โดยเฉพาะให้ประชาชนในฐานะผู้มีส่วนได้ส่วนเสียงในการพิจารณาติดตามร่างกฎหมาย ฐานะเจ้าของอำนาจอธิปไตย นอกจากนั้นต้องแปลกฎหมายที่ผ่านมาวาระสามของสภาฯ และมีผลบังคับใช้เป็นภาษาอังกฤษ เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ร่วมกับอาเซียนและประชาคมโลก ส่งเสริมความเท่าเทียมสมาชิกที่มีความหลากหลายทางเพศ บทบาทสตรี และส.ส.ที่อายุต่ำกว่า 30 ปี
นายปดิพัทธ์กล่าวว่า ต้องยกระดับการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน ไม่ใช่แค่เลือกตัวแทนทำงานในสภาฯ รวมถึงการรับฟังความคิดเห็น สะท้อนเสียงประชาชนสู่สภาฯ ได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้หากตนได้รับเลือก ตลอดการทำงานจะวางตัวเป็นกลาง ใช้ความสามารถพัฒนาองค์กร เป็นระบบราชการทันสมัยและตอบสนองประชาชนและการทำงานของส.ส.ให้เต็มศักยภาพ
"ดังนั้นผมขอความไว้วางใจ ในการทำงาน 4 ปีที่ผ่านมาในฐานะกรรมาธิการฯ สมาชิกเห็นการทำงานของตนแล้วว่ามีความเป็นกลาง ดังนั้นตนมั่นใจและสัญญาว่าจะสนับสนุนงานของประธานสภาฯให้ดีที่สุด บริการส.ส.ทุกคนอย่างเท่าเทียมปราศจากอคติและทำทุกวิถีทางให้กระบวนการนิติบัญญัติสง่างามและมีประสิทธิภาพ” นายปดิพัทธ์ กล่าว
ขณะที่นายวิทยา แสดงวิสัยทัศน์ ว่า ตนจะทำงานด้วยความเป็นกลางและรักษาองค์กรสภานิติบัญญัติ ให้เป็นสภาฯ ที่ทรงเกียรติและศักดิ์สิทธิ สถานที่นี้ เป็นสถานที่ที่ออกกติกาของสังคม ตนเชื่อว่าหากทำหน้าที่รองประธานสภาฯ จะปฏิบัติตามแนวนโยบายและทำหน้าที่เป็นกลาง เสมอภาค กับส.ส.ในสภาฯ และมั่นใจว่าจะรักษาเกียรติภูมิและหน้าตาของสภา
“ขอให้มั่นใจว่าจะวางตัวเป็นกลางและรักษาเกียรติภูมิให้ประชาชนเชื่อมั่น ยอมรับว่าบางยุคบางสมัยประชาชนเบื่อหน่าย ลำคาญ สภาไร้ระเบียบวินัย เราต้องช่วยกันทำให้สภาฯ มีเกียรติภูมิขอให้ความมั่นใจ ในสมัยของสภาชุดนี้ จะทำหน้าที่เป็นกลางและรักษาเกียรติภูมิของสภาไว้ให้ดีที่สุด” นายวิทยา กล่าว
หลังจากที่สมาชิกลงคะแนนเสร็จสิ้น คณะกรรมการตรวจสอบนับคะแนนได้ทำการนับคะแนนเสร็จ ประธานได้รายงานผลการนับคะแนนว่า นายปดิพัทธ์ ได้ 312 คะแนน นายวิทยา ได้ 105 คะแนน งดออกเสียง 77 คะแนน บัตรเสีย2 คะแนน
ส่วนรองประธานสภาฯคนที่2 มีการเสนอชื่อนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เพียงคนเดียว จึงทำให้ได้รับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯคนที่2 ไปโดยปริยาย
อย่างไรก็ตามนายพิเชษฐ์ ได้แสดงวิสัยทัศน์ว่า จะฟื้นฟูรัฐสภาประจำภาคทั้ง 5 แห่ง เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงสภาฯ และใกล้ชิดกับประชาชนในทุกกภาคเป็นเบื้องต้น นอกจากนั้นจะให้โอกาส ส.ส.นำความเดือดร้อนของประชาชนหารือในสภาฯ จากคนละ 2 นาที เป็น 3 นาที เพื่อให้การแก้ปัญหาประชาชนได้สำเร็จ รวมถึงตนจะให้เกียรติส.ส. ปฏิบัติงานตามที่ประธานมอบหมาย ขณะเดียวกันจะเร่งรัดให้ ส.ส.มีศักยภาพในการพัฒนาประเทศ กอบกู้ เกียรติยศ ศักดิ์ศรีของสภาฯ ให้ถ่วงดุลกับอำนาจตุลาการ และอำนาจบริหาร
หลังจากเสร็จสิ้นวาระการคัดเลือกตำแหน่งดังกล่าว ประธานที่ประชุมได้ แจ้งว่าเสร็จสินระเบียบวาระ ส่วนการประชุมครั้งต่อไปเมื่อไหร่ประธานคนที่ได้รับการคัดเลือกจะแจ้งนัดหมายให้ทราบต่อไป
จากนั้นได้สั่งปิดประชุมเมื่อเวลา 13.51 น.