โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ส่งเสริมการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน สนับสนุนให้คนมีงานทำต่อเนื่อง พัฒนาทักษะทหารก่อนปลดประจำการ และ Job Expo Phuket 2023
วันนี้ ( 4 ก.ค.) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ส่งเสริมแนวคิดและการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงาน ยกระดับทักษะ สมรรถนะแรงงาน ให้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการจัดงาน Job Expo Phuket 2023 สนับสนุนการจ้างงานให้ตรงตามความต้องการในภาคใต้
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า กระทรวงแรงงานได้บูรณาการความร่วมมือกับกองทัพเรือในการพัฒนาฝีมือแรงงานให้แก่ทหารกองประจำการ และก่อนปลดประจำการ โดยจัดฝึกอบรมให้แก่ทหารเรือในสาขาอาชีพต่าง ๆ เช่น ช่างซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน หรือช่วยเหลือประชาชนกรณีเกิดอุทกภัยและวาตภัย และพัฒนาทักษะทางด้านช่างให้แก่ครูฝึกของกองทัพเรือ เพื่อให้มีงานทำหลังปลดประจำการ รวมถึงระหว่างที่ประจำการก็สามารถนำความรู้ที่ได้จากการฝึกอบรมไปซ่อมแซมเครื่องมืออุปกรณ์ในหน่วยงาน เป็นทีมช่างให้บริการประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาในช่วงระหว่างปี 2564 - 2566 ได้มีการจัดฝึกอบรมให้แก่ทหารเรือในพื้นที่ต่าง ๆ แล้วจำนวน 349 คน มีงานทำร้อยละ 69.53 โดยได้นำความรู้ไปประกอบอาชีพ ทั้งอาชีพหลักและอาชีพเสริม รวมถึงเข้าทำงานในสถานประกอบกิจการ และมีรายได้เฉลี่ย 9,794 บาทต่อเดือน
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมถึง จากกรณีความสำเร็จการจัดงาน JOB EXPO THAILAND 2023 เมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2566 ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีนั้น รัฐบาลสนับสนุนการจัดกิจกรรมลักษณะเดียวกันนี้ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนผู้ว่างงานได้มีโอกาสเข้าถึงงาน และพบปะนายจ้างหรือสถานประกอบการโดยตรง ซึ่งล่าสุดก็ได้มีการจัดงาน JOB EXPO PHUKET 2023 ระหว่างวันที่ 23-24 มิถุนายน ที่จังหวัดภูเก็ต มีการออกบูธของนายจ้างสถานประกอบการชั้นนำในจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดข้างเคียงจำนวน 80 แห่ง ควบคู่การรับสมัครงานออนไลน์ จำนวน 150 แห่ง ทั้งงานพาร์ทไทม์ งานสำหรับผู้สูงอายุ งานสำหรับผู้พิการ และงานสำหรับนักศึกษาจบใหม่ หน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ โดยมีตำแหน่งว่างกว่า 30,000 อัตรา และยังมีการรับสมัครงานเพื่อไปทำงานต่างประเทศ อาทิ เกาหลีใต้ มาเลเซีย ซาอุดีอาระเบีย ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น จำนวนกว่า 1,700 อัตรา
“นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ของประชาชน มุ่งมั่นในการทำงานมาโดยตลอดเพื่อขับเคลื่อนยกระดับแรงงานของไทยอย่างครบวงจร ต้องการให้ประชาชนมีงานทำ และเป็นงานที่ยกระดับวิถีชีวิตของตนเองและครอบครัว สนับสนุนการยกระดับฝีมือแรงงาน Upskill, Reskill, New skill ที่จำเป็นในโลกของการทำงานปัจจุบัน รวมถึงสนับสนุนการส่งต่อคุณภาพเพื่อการแข่งขันในการทำงานในอนาคต และต้องการให้แรงงานในตลาดแรงงานได้รับโอกาส ผลักดัน คุ้มครองอย่างทั่วถึง เท่าเทียม” นายอนุชาฯ กล่าว