"พิธา" โชว์แมนลุกขึ้นเสนอชื่อ "วันนอร์"นั่งเก้าอี้ ปธ.สภา แบบไร้คู่แข่ง เจ้าตัวประกาศวิสัยทัศน์ 6 ข้อ พร้อมทำหน้าที่ประมุขนิติบัญญัติ ยึดความเป็นกลาง น้อมนำพระราชดำรัสใส่เกล้าฯ ด้าน รทสช.ส่ง"วิทยา" ท้าชิงรอง ปธ.คนที่1 จาก"ปดิพัทธ์"
วันนี้(4 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.05 น. การประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1 ได้เริ่มต้นขึ้น โดยนางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้เชิญ พล.ต.ต.วิโรจน์ เปาอินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ฐานะ ส.ส.ที่มีความอาวุโสสูงสุดในที่ประชุม ขึ้นทำหน้าที่ประธานชั่วคราว
ทั้งนี้ พล.ต.ต.วิโรจน์ กล่าวต่อที่ประชุม ว่า เรียน ส.ส.ที่รัก เคารพ และนับถือทุกคน ตนรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติที่รับมอบให้ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมนัดแรก ของสภาฯ ทั้งนี้มี ส.ส. เข้าร่วมลงชื่อเข้าประชุม 496 คน ถือว่าครบองค์ประชุม
จากนั้นเข้าสู่วาระแรก คือ ให้ สมาชิก ส.ส.กล่าวคำปฎิญาณตนก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ ต่อมาได้แจ้งต่อที่ประชุมให้เพื่อทราบว่ามีการถ่ายทอดภาพและเสียงในการประชุม ขอสมาชิกอย่ากล่าวพาดพิงให้เกิดความเสียหาย คนภายนอก อาจนำไปสู่การ้องร้องคดีอาญาขอให้ทุกคนระมัดระวัง
จากนั้นเข้าสู่วาระการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ลุกขึ้นเสนอชื่อนายวันมูฮัมหมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชาติ เป็นประธานสภา โดยไม่มีผู้ใดเสนอรายชื่อบุคคลอื่นเข้าแข่งขัน
ทั้งนี้นายวันมูอัมหมัดนอร์ มะทา กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ว่า 1.ตนขอยืนยันว่าหากได้รับการทำหน้าที่ครั้งนี้ขอยืนยันกับทุกคนว่า ตนจะทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง และจะน้อมนำพระราชดำรัสของในหลวงที่พระราชทานให้สมาชิกส.ส.สมัยที่ 26 เมื่อวานนี้(3 ก.ค.) มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติของพวกเราต่อไป 2. ตนจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความโปร่งใส สุจริต ตามรัฐธรรมนูญทุกประการ
3.การกำหนดแนวทางร่วมกันกับรองประธานทั้งสองท่านในการพิจารณากฎหมาย ญัตติ กระทู้อย่างเป็นระบบ เพื่อให้การทำงานอย่างเต็มความสามารถและประโยชน์กับประชาชน 4. ให้ความสำคัญกับการทำงานของกรรมาธิการทุกคณะ เพื่อแก้ไขบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนทุกกรณี 5. ตนจะร่วมกับทุกคนดำเนินการนโยบายด้านต่างประเทศ โดยเน้นความร่วมมือในงานระบบรัฐสภา เพื่อประสิทธิภาพการทำงานของสภานิติบัญญัติ และ 6 .จะทำหน้าที่กำกับดูแลสถาบันพระปกเกล้าฯ ให้มีประสิทธิภาพ และสนับสนันให้วิทยุ และทีวีรัฐสภา ให้เป็นของประชาชนเพื่อที่จะส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยในทุกภาคส่วนให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืนตลอดไป
จากนั้นพล.ต.อ.วิโรจน์กล่าวว่า ถือว่าที่ประชุมได้มีมติให้นายวันมูฮัมหมัดนอร์ มะทา เป็นประธานสภาผู้แทนราฏรตามข้อบังคับการประชุมข้อ 6 วรรคสาม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า แม้จะไม่มีการเสนอชื่อบุคคลอื่น แต่เพื่อให้ระบวนการสมบูรณ์ จึงเสนอให้ขานจำนวนสมาชิกที่รับรอง แต่ พล.ต.อ.วิโรจน์กล่าวว่า เมื่อมีผู้เสนอชื่อเพียงผู้เดียวและแสดงวิศัยทัศน์เสร็จแล้ว ไม่น่าจะลงคะแนนอีกแล้ว อย่างไรก็ตามมีสมาชิกเห็นว่าเมื่อขั้นตอนครบถ้วนตามข้อบบังคับแล้วก็ไม่ควรจะให้มีการขายชื่อแต่อย่างใด ในที่สุดที่ประชุมได้ข้อยุติให้นายวันนอร์ฯ ดำรงตำแหน่งเป็นประธานสภาชุดที่ 26 โดยสมาชิกทั้งหมดได้ปรบมือแสดงความยินดี
จากนั้นที่ประชุมได้เข้าสู่วาระการเลือกตำแหน่งรองประธานสภา 2 คน โดยเริ่มจากคนที่ 1 นายประเสริญ จันทร์รวงทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย เสนอชื่อนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ขณะที่ นายอัครเดช วงศ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เสนอชื่อนายวิทยา แก้วภารดัย ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยบุคคลทั้งสองต่างลุกขึ้นแสดงวิสัยทัศน์การทำงาน เพื่อให้สมาชิกประกอบการพิจารณาตัดสินใจ โดยใช้วิธีลงคะแนนเสียงแบบลับด้วยการให้สมาชิกเขียนชื่อบุคคลที่ตนโหวตให้เป็นรองประธานสภาคนที่1 หย่อนลงในหีบเลือกตั้ง โดยมีการตั้งคณะกรรมการตรวจนับคะแนน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับ ส.ส.ชุดที่ 26 ที่ กกต. รับรอง ทั้งสิ้น 500 คน ล่าสุดมีเข้ามารายงานตัว รวมทั้งสิ้น 498 คน เนื่องจาก น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ พ้นสมาชิกภาพ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ได้ยื่นหนังสือลาออกจาก ส.ส.ก่อนปฏิญาณตน อย่างไรก็ดีมีข่าวแจ้งว่า มี ส.ส.ที่ร่วมลงชื่อเข้าประชุมได้ทันการกล่าวปฏิญาณตน มีเพียง 497 คน ขาดเพียง 1 คน ซึ่งทางสำนักงานเลขาธิการสภาฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายชื่อและจะให้กล่าวคำปฏิญาณตนในที่ประชุมสภาฯ ครั้งถัดไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการประชุมสภาฯ นัดแรกนั้น ได้นัดหมายเวลา 09.30 น. แต่เปิดประชุมได้ล่าช้า กล่าวเวลาที่กำหนด 35 นาที เนื่องจากรอ ส.ส.ตามที่มารายงานตัวต่อสภาฯ ให้ครบจำนวน 498 คน
