วันนี้(2 ก.ค.)นายชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายปริเยศ อังกูรกิตติ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรและประชาสัมพันธ์ พรรคไทยสร้างไทย ออกมาเรียกร้องให้ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) หยุดลาออก เพราะกลัวว่า แรมโบ้หรือนายเสกสกล จะเข้าไปป่วนสภาฯว่า ที่ผ่านมาจะสังเกตเห็นว่าหลังการเลือกตั้งนายเสกสกล ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ รวมทั้งแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติหลายๆคน ไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นทางการเมืองมากนัก อยู่อย่างนิ่งเงียบสงบ เพราะต้องการให้พรรคการเมืองฝ่ายที่ชนะเลือกตั้งได้รวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลและเลือกประธานสภา ตามวิถีทางของระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา ซึ่งถือเป็นมารยาททางการเมืองที่พรรครวมไทยสร้างชาติยึดมั่น
“แต่ตนเองก็ประหลาดใจที่ อยู่ๆนายปริเยศซึ่งเป็นถึงผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของพรรคไทยสร้างไทย กลับออกมาแสดงความคิดเห็นพาดพิงพี่ชายตนคือนายเสกสกลให้เสียหาย เป็นการเสียมารยาท ทางการเมืองอย่างร้ายแรง ก็ไม่รู้ว่าคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย หลับหูหลับตาไปเอาคนแบบนี้มาเป็นผอ. ฝ่ายสื่อสารและประชาสัมพันธ์ของพรรคได้อย่างไร พอไปดูความสำคัญของการจัดลำดับในพรรคไทยสร้างไทยแล้วนายปริเยศอยู่ลำดับที่ 50 ผู้ใหญ่ในพรรคเองก็คงไม่ได้ให้ค่าให้ราคาเท่าไร ขณะที่ตัวตนเองเป็นผู้สมัครในบัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติลำดับที่28 ยังดีกว่านายปริเยศด้วยซ้ำไป ตนยังไม่เคยคิดที่จะมาเยาะเย้ยถากถางคนอื่นเลย เพราะทุกคนที่เข้าใจการเมืองต้องการให้ทุกอย่างเดินไปตามขั้นตอนกติกาของกฎหมายรัฐธรรมนูญตามกติกาประชาธิปไตย ไม่อยากออกมาขัดแข้งขัดขาใคร แม้แต่พี่แรมโบ้ยังนิ่งเงียบมาตลอดหลังเลือกตั้ง ข่าวคราวก็ไม่มีออกมาทางสื่อ"
นายชนะศักดิ์ ยังระบุว่าการที่ ส.ส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติจะลาออกหรือไม่ก็ไม่เกี่ยวกับนายเสกสกล ที่จะเข้าไปเป็น ส.ส. เพราะเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคลที่จะตัดสินใจเอง และที่สำคัญเป็นกระบวนการภายในของพรรครวมไทยสร้างชาติตั้งแต่จัดลำดับผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อแล้ว ดังนั้นเหตุใดลูกน้องคุณหญิงสุดารัตน์ ถึงเข้ามาก้าวก่ายจุ้นจ้านกับพรรคการเมืองอื่นเขาเยี่ยงนี้
“ตนเองขอตั้งข้อสังเกตไปยังนายปริเยศว่า ทำไมต้องออกมาเสือกเรื่องคนอื่นเพราะอะไร กรือหิวแสงหรืออย่างไรถึงได้โผล่ออกมาให้เป็นข่าวหรือเพราะกลัวนายเสกสกล ถ้าได้เป็นส.ส. แล้วจะไปขัดขวางกระบวนการแก้กฎหมายทำลายประเทศชาติ และบ่อนทำลายสถาบันใช่หรือไม่ พี่แรมโบ้กับคุณหญิงหน่อยสุดารัตน์ ทำงานการเมืองด้วยกันตั้งยุคพรรคพลังธรรมปี38 และมาจนเป็นส.ส.พรรคไทยรักไทย ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองอยู่กลุ่มบ้านเลขที่ 111 มาด้วยกัน มีความสนิทสนมให้ความเคารพในทางการเมืองให้เกียรติคุณหญิงตลอดมา คุณหญิงท่านทราบดี ไม่คิดว่า จะมีเด็กหิวแสงในพรรคของท่าน ออกมาก้าวร้าวเช่นนี้ และตนก็ไม่เชื่อว่า ผู้ใหญ่ในพรรคจะเห็นด้วยกับพฤติกรรมของนายปริเยศที่ก้าวล่วงบุคคลและพรรคอื่นเช่นนี้ คงต้องจับไปอบรมมารยาททางการเมืองบ้างก็น่าจะดีขึ้น " นายชนะศักดิ์ กล่าว