xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ ชื่นชมโครงการ SME Restart 2566 ส่งเสริมศักยภาพ SME ด้านการท่องเที่ยว สู่วิถีการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ เชื่อมโยงชุมชน สร้างรายได้อย่างยั่งยืน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ ชื่นชมโครงการ SME Restart 2566 ส่งเสริมศักยภาพ SME ด้านการท่องเที่ยว สู่วิถีการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ เชื่อมโยงชุมชน สร้างรายได้อย่างยั่งยืน

วันนี้ (1 ก.ค.) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชื่นชมการดำเนินโครงการ SME Restart 2566 เพื่อสนับสนุนศักยภาพในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ตามแนวคิด “เตรียมความพร้อม SME สู่การท่องเที่ยววิถีใหม่ เชื่อมโยงชุมชน สร้างรายได้แบบยั่งยืน”

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อย (สสว.) กับ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ร่วมมือกันจัดโครงการ SME Restart 2566 โดยมุ่งเน้นให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางธุรกิจให้มีความสามารถในการแข่งขัน ทั้งในด้านสินค้า การตลาด และเทคโนโลยี และเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวไปยังชุมชน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ กระจายรายได้สู่ชุมชนทั่วประเทศตามแนวคิด “เตรียมความพร้อม SME สู่การท่องเที่ยววิถีใหม่ เชื่อมโยงชุมชน สร้างรายได้แบบยั่งยืน” โดย สสว. และ สทท. เคยร่วมกันจัดโครงการ SME Restart เพื่อเพิ่มทักษะ (Upskill) และ ฝึกฝนทักษะ (Reskill) ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ ให้มีความพร้อมต่อการต้อนรับนักท่องเที่ยวในยุค New Normal จนเกิดเป็น Phuket Sandbox Model ที่เป็นต้นแบบในการเปิดประเทศอย่างปลอดภัยและได้รับการยอมรับไปทั่วโลกเมื่อปี 2564

โดยโครงการ SME Restart 2566 มุ่งเน้นการพัฒนา 3 หัวข้อสำคัญ ได้แก่ 1) Smart Tourism 2) Green Tourism 3) Wellness Tourism จัดกิจกรรมใน 10 พื้นที่ คือ นครราชสีมา อุดรธานี ชลบุรี เชียงใหม่ พิษณุโลก นครศรีธรรมราช กระบี่ ภูเก็ต ประจวบคีรีขันธ์ และกรุงเทพมหานคร และมีการเชื่อมโยงไปยังชุมชนที่โดดเด่นในเรื่อง BCG, SDG และ Wellness Tourism กว่า 15 แห่ง เพื่อต่อยอดให้ผู้ประกอบการและชุมชน มีกลยุทธ์การบริหาร และการตลาดที่ SMART สู่การเป็น Virtual Tourism ที่สามารถประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวไปยังกลุ่มเป้าหมายทั่วโลกได้อย่างน่าสนใจ ทั้งนี้ นอกจากการฝึกอบรม มี Workshop การเชื่อมโยงธุรกิจ (Business Collaboration) และพัฒนาเชิงลึกให้กับกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว 15 กลุ่ม โดยดำเนินการพัฒนาในด้านต่าง ๆ เช่น การปรับรูปแบบธุรกิจ (Business Model) การพัฒนาการเล่าเรียง (Storytelling) การสร้าง Digital Content การประสานเครือข่ายธุรกิจแบบ B2B และการท่องเที่ยวบนโลกเสมือน (Virtual Tour) เพื่อสร้างต้นแบบกลุ่มท่องเที่ยวธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนได้อย่างยั่งยืน และจัดทำต้นแบบทางธุรกิจ (Success Case) ในรูปแบบดิจิทัล เพื่อเผยแพร่ให้กับผู้ประกอบการรายอื่น ๆ โดยคาดการณ์ว่า เมื่อผู้ประกอบการนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในการประกอบธุรกิจ จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท

“นายกรัฐมนตรีชื่นชมการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่เกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ขับเคลื่อน พัฒนา และต่อยอดองค์ความรู้ ที่เกิดจากการพิจารณากระแส ความนิยมของนักท่องเที่ยว และนำมารวมกับทรัพยากรที่ไทยมี จัดทำเป็นแนวทางปฏิบัติร่วมกัน เพื่อให้ได้กลุ่มธุรกิจ และกิจกรรม ที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวยุคใหม่ และยังเป็นการกระจายความเข้มแข็งสู่ SME และกระจายความเจริญสู่ชุมชนต่าง ๆ เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลอีกด้วย” นายอนุชาฯ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น