xs
xsm
sm
md
lg

กมธ.การเมืองหอบเอกสารตรวจสอบหุ้นสื่อ “พิธา” มอบ กกต.พรุ่งนี้ ยกเคสโอนที่ปราณบุรีให้ตัวเองเทียบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เสรี” เตรียมนำ กมธ.การเมืองฯ พบ กกต. พรุ่งนี้ พร้อมหอบเอกสาร-การตรวจสอบ คุณสมบัติถือหุ้นสื่อ “พิธา” ให้พิจารณา ยกเคสโอนที่ปราณบุรีให้ตัวเอง เมื่อปี 60 เทียบ ยัน ม. 272 ให้สิทธิ ส.ว.ตรวจสอบตรวจสอบคุณสมบัติแคนดิเดตนายกฯ

วันนี้ (27 มิ.ย.) นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (28 มิ.ย.) กมธ. จะเข้าพบ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมคณะ กกต.และสำนักงานเลขาธิการ กกต. ตามที่ได้นัดหมายไว้ก่อนหน้านี้ เพื่อพูดคุยและรับฟังประเด็นของปัญหาอุปสรรคของการจัดการเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา รวมถึงสอบถามถึงการดำเนินการของ กกต. ในการไต่สวนกรณีของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กรณีที่รู้ตัวว่าขาดคุณแต่ยังยินยอมให้พรรคส่งลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งส่อขัดกับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง มาตรา 151 หรือไม่

นายเสรี กล่าวด้วยว่า ในการทำงานของ กมธ. นั้น ได้ตรวจสอบกรณีที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติของนายพิธา ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวโยงกับการถือหุ้นไอทีวี ที่แม้ว่าล่าสุดนายพิธาจะโอนหุ้นดังกล่าวให้ทายาทไปแล้ว แต่จากการตรวจสอบของ กมธ.ที่ได้รับเอกสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรณีครอบครองที่ดิน พบว่า นายพิธา ฐานะผู้จัดการมรดก ได้ดำเนินการโอนที่ดิน อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคิริขันธ์ ให้กับตนเองฐานะทายาทแล้ว ตั้งแต่ปี 2560 ดังนั้น แสดงว่า นายพิธา ฐานะผู้จัดการมรดกได้จัดการแบ่งมรดกให้ทายาทแล้วตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งอาจจะรวมถึงเรื่องหุ้นไอทีวีด้วยเช่นกัน และคงไม่ถือครอง โดยไม่ดำเนินการใดๆ มาถึง 17 ปี

“กรณีที่ นายพิธา โอนหุ้นไอทีวีให้ทายาทไปเร็วๆ นี้ ไม่สามารถปฏิเสธพฤติกรรมของตนเองได้ เพราะเมื่อนำกรณีการโอนที่ดินปราณบุรีให้ตนเองในปี2560 แสดงว่าการจัดการมรดกอื่นๆ ต้องจัดการไปแล้วเช่นกัน อีกทั้งในประเด็นเรื่องหุ้นไอทีวีนั้น นายพิธา ได้ใส่ชื่อของตนเองมาตั้งแต่ช่วงปี 2549-2550 เช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีประเด็นคำพิพากษาของศาลฏีกาที่ตัดสินว่ามรดกตกทอดถึงทายาททันทีที่เจ้าของทรัพย์มรดกกนั้นตาย ทำให้กรรมสิทธิในทรัพย์ ซึ่งหมายถึงมรดกนั้นตกสู่ทายาททันที” นายเสรี กล่าว

นายเสรี กล่าวด้วยว่า ในการพบกับ กกต.​นั้นตนจะนำเอกสารที่ได้ รวมถึงผลการตรวจสอบ มอบให้กับ กกต. ไปพิจารณาด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ นายเสรี ยังตอบคำถามถึงกรณีที่ นายพิธา มั่นใจว่า เสียง ส.ว.จะสนับสนุนให้ได้เป็นนายกฯ ตามเกณฑ์ 376 เสียง ว่า หากเสียงถึง 376 ก็ได้เป็น ไม่ได้ห้าม แต่ทราบว่า มี ส.ว.ที่เอานายพิธา มีไม่เกิน 5 คนเท่านั้น ส่วนคนที่เคยบอกว่าจะสนับสนุน เช่น นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ นายตวง อันทะไชย พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนนท์ ไม่เคยบอกชื่อว่าเป็นนายพิธา บอกแค่ว่าหากสภารวมเสียงข้างมากมาเสนอเท่านั้น

นายเสรี ยืนยันว่า ส.ว.มีสิทธิตรวจสอบคุณสมบัติของแคนดิเดตนายกฯ ได้ เพราะตามมาตรา 272 ที่กำหนดให้ ส.ว.ร่วมเลือกนายกฯ ทั้งนี้ บทบัญญัติได้โยงมาตรา 159 พ่วงกับต้องมึคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม มาตรา 160 ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่และอำนาจของ ส.ว. ตามมาตรา 82 เข้าชื่อ 1 ใน 10 ของสมาชิกวุฒิสภา 250 คนหรือ 25 เสียง เข้าชื่อยื่นต่อประธานวุฒิสภาให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญได้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวต้องทำก่อนการโหวตนายกฯ โดยขณะนี้ ส.ว. อยู่ระหว่างหารือเพื่อหาข้อสรุปอีกครั้ง อย่างไรก็ดี ในประเด็นคุณสมบัติของนายพิธานั้น ยังมีอีกช่องทาง คือ กกต. สามารถดำเนินการได้ เพราะมีอำนาจ หากไม่ทำจะเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้.


กำลังโหลดความคิดเห็น