หน.ประชาติ ซัด "สนธิ" ใส่ร้ายปมหนุนประชามติแบ่งแยกดินแดน ยกเกียรติประวัติการันตีไม่มีความคิด เผยดำเนินคดีฐานหมิ่นประมาทแล้ว
วันนี้(19 มิ.ย.) วันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวว่า ขอชี้แจงกับประชาชนกรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้พูดล่วงละเมิดพรรคประชาชาติไปสนับสนุนการทำประชามติแบ่งแยกดินแดนของนักศึกษามอ. ซึ่งต้องเรียนกับประชาชนให้ความเป็นธรรมกับพรรคประชาชาติด้วย เนื่องจากพรรคประชาชาติเพียงแต่ได้รับเชิญให้ไปพูดทางวิชาการเท่านั้น ส่วนเรื่องการทำประชามติต่างๆเป็นเรื่องของนักศึกษา และมหาวิทยาลัย ซึ่งเราเองไม่เห็นด้วยในการที่จะทำประชามติเพื่อแบ่งแยกดินแดน เพราะขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 1 ระบุว่าราชอาณาจักรไทยเป็นอันหนึ่งอันเดียว แบ่งแยกไม่ได้ เราเป็นพรรคการเมืองเคารพและปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด จะไปสนับสนุน ส่งเสริมอย่างที่นายสนธิพูดนั้นจะกระทำไม่ได้
นอกจากนี้ นายสนธิยังพูดด้วยว่าตนไปสนับสนุนการแบ่งแยกดินแดน และหากทำสำเร็จตนจะเป็นผู้ปกครอง 3 จังหวัดนั้น ถือเป็นการโกหกโดยสิ้นเชิง นายสนธิอาจจะโง่หรือแกล้งโง่ก็ได้ ตนตั้งพรรคการเมือง ต้องการเล่นการเมืองตามระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขในระบบรัฐสภา และตนยังเป็นประธานรัฐสภาในสมัยที่มีรัฐธรรมนูญฉบับที่เป็นประชาธิปไตยมากที่สุด ตนเป็นคนนำรัฐธรรมนูญฉบับนี้เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าลงปรมาภิไธย แล้วจะไปสนับสนุนการแบ่งแยกดินแดน เป็นกบฏอย่างที่นายสนธิกล่าวไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นตนจึงขอฟ้องต่อประชาชน และให้ทีมกฎหมายดำเนินการฟ้องร้องกล่าวหา หมิ่นประมาทตามกฎหมายแล้ว ส่วนนายสนธิหากมีหลักฐานก็เอามาฟ้องร้องตนได้เลย
“อยากให้ความเป็นธรรมด้วย ในฐานะที่เล่นการเมืองมา 44 ปี ได้รับการเลือกตั้งเป็นผู้แทน 11 สมัย ถ้าผมเป็นขบถ เป็นคนแบ่งแยกดินแดน เป็นคนไม่จงรักภักดีต่อบ้านเมือง ประชาชนจะเลือกผมได้อย่างไร 11 ครั้งที่ผ่านมา แล้วผมจะไปแบ่งแยกดินแดน 3 จังหวัดทำไม ผมเคยเป็นรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ดูแลผู้ว่า 77 คน นายอำเภอ 800 กว่าคน กำนันผู้ใหญ่บ้านเป็นหมื่นคน มันมากมายกว่า 3 จังหวัดเยอะแยะ ดังนั้นเป็นเรื่องโกหก คนเป็นรัฐมนตรีมหาดไทยจะไปคิดแบ่งแยกดินแดนได้อย่างไร เป็นการกล่าวหาให้ผมเสียหาย อยากให้ประชาชนพิจารณาว่า ระหว่างคนที่เป็นประธานรัฐสภา นำรัฐธรรมนูญฉบับที่เป็นประชาธิปไตยมาสู่ประเทศนี้ กับคนที่ไปยุคนเดินประท้วง จนมีคนมายึดอำนาจฉีกรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย โกงแม้กระทั่งบริษัทตัวเอง”