xs
xsm
sm
md
lg

“กัณวีร์” ติงประชุมลับไทยรับผลกระทบจากพม่า ขัดมารยาทสากล ชงเข้าวงประชุมพรรคร่วมพรุ่งนี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เลขาฯ เป็นธรรม ชี้ ประชุมลับประเทศได้รับผลกระทบจากเมียนมา ขัดมารยาทสากล กระทบ รบ.ใหม่ เตรียมชงเข้าวงประชุมพรรคร่วมพรุ่งนี้ สร้างจุดยืนการทูตไทยให้ชัดเจน พร้อมร่วมประเทศใกล้พม่าแก้ไข

วันนี้ (19 มิ.ย.) ที่ทำการพรรคประชาชาติ นายกัณวีร์ สืบแสง เลขาธิการพรรคเป็นธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะทำงานสันติภาพชายแดนใต้ ครั้งที่ 2 จากพรรคร่วมรัฐบาล 8 พรรค ถึงเรื่องการประชุมลับของประเทศที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาขัดแย้งในประเทศเมียนมา ว่า ตามที่ได้พูดไปว่ามารยาททางการทูต และการเมือง แม้จะเป็นรักษาการก็ไม่ควรเรียกประชุม แม้ทางรัฐมนตรีรักษาการ จะระบุว่า เป็นการประชุมที่ทำประจำ และเคยประชุมมาแล้ว 2 ครั้ง ก็ต้องรอรัฐบาลชุดใหม่ เพราะการพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการ ก็อาจเกิดการมุ่งมั่นในการทำอะไรสักอย่างขึ้นมาได้ และจะกลายเป็นข้อผูกมัด ถ้ารัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาในการบริหารประเทศยังไม่มีนโยบายในการแก้ไขปัญหา ในการพูดคุยเพื่อการรักษาสันติภาพในเมียนมา อาจทำให้เกิดข้อขัดแย้งมากกว่าข้อดี

เมื่อถามถึงการประชุมในครั้งนี้ จะส่งต่อพรรคร่วมรัฐบาลในการทำงานต่อหรือไม่ นายกัณวีร์ กล่าวว่า มีผลกระทบอยู่แล้ว แต่เราเห็นข้อดีในแง่ร้าย คือ ในประเทศอินโดนีเชีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ มาเลเซีย ก็ไม่เข้าร่วม แสดงให้ความชัดเจนว่าแนวทางของอาเซียนมีการเห็นต่างการประชุมครั้งนี้ หากรออีก 4 สัปดาห์ จะมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามา และจะเป็นแนวทางที่ดีที่

“สันติภาพในเมียนมาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จำเป็นต้องพูดคุยกัน ทำความเข้าใจให้หมดทุกประเทศในอาเซียน แต่ตอนนี้เมียนมาเป็นประเทศที่มาจากผู้สถาปนาอำนาจตัวเองจากปลายกระบอกปืน มาเป็นตัวแทนของประเทศเมียนมาก็แปลกๆ ยังมีอีกหลายกลุ่มอย่างกองกำลังชาติพันธุ์ ที่ถืออาวุธอยู่ ก็เห็นต่างในส่วนนี้ จึงต้องพูดคุยกันในทุกส่วน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยกัน” นายกัณวีร์ กล่าว

เมื่อถามว่า จะมีการนำเสนอต่อพรรคร่วมในการแก้ไขปัญหาหรือไม่ นายกัณวีร์ กล่าวว่า พรุ่งนี้มีการประชุมของคณะกรรมการประสานงานเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ตนเองในฐานะตัวแทนพรรคเป็นธรรมจะเสนอเรื่องนี้เอง โดยทางพรรคก้าวไกลได้กำหนดไว้ว่า การตั้งคณะกรรมการต้องเป็นปัญหาที่กระทบต่อประชาชน เรื่องการต่างประเทศยังไม่มีการคุยกันแต่ตนเองเห็นถึงความสำคัญของจุดยืนทางการทูตในเวทีโลก จึงมีความสำคัญเร่งด่วนในการสร้างจุดยืนทางการทูตของไทยให้ชัดเจนในเร็วๆ นี้

เมื่อถามว่า กรณีนี้จะกระทบอย่างไรต่อจุดยืนทางการทูตของประเทศไทย และจะมีการปรับตัวอย่างไร นายกัณวีร์ กล่าวว่า จุดยืนทางการทูตของไทยตั้งแต่สงครามเย็น เน้นทวิภาคี พูดคุยกัน 2 ประเทศ เน้นอนุรักษนิยม ความมั่นคง เราจำเป็นต้องใช้กรอบใหญ่กว่านี้ คือ พหุภาคี คุยเรื่องสิทธิมนุษยชนให้เกิดขึ้น เพราะสิทธิมนุษยชนที่เสนอไปในประชามติ 5 ข้อของอาเซียน ยังไม่ได้สะท้อนถึงปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงในเมียนมา หลังจากการรัฐประหารในวันที่ 1 ก.พ. 64 ก็ยังไม่มีองค์กรหรือประเทศใดในการพูดคุยเรื่องนี้ เราจำเป็นต้องแสงความเป็นผู้นำและกล้าแสดงออกว่ามีการลิดรอนสิทธิอย่างรุนแรง ควรใช้เวลานี้ แสดงจุดยืนให้ชัดเจน ตนเองเห็นในวงที่เข้าร่วมการประชุมวันนี้ ที่ไม่ได้มาจากอาเซียนอย่างประเทศจีน และประเทศอินเดีย เข้าร่วมการประชุมด้วย ควรรวมประเทศใกล้เคียงเมียนมาให้หมดทั้ง 5 ประเทศ ในการแก้ไขเรื่องนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น