โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ ยินดี ไทย-เกาหลีใต้ ร่วมมือเสริมสร้างศักยภาพนักสร้างสรรค์คอนเทนต์ “Delight Thai” ส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ผลักดัน 5F soft power สู่สายตาชาวโลกเพิ่มมากขึ้น
วันนี้ (18 มิ.ย.) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชื่นชมความร่วมมือไทย-เกาหลีใต้ ทำโครงการพัฒนาศักยภาพนักสร้างสรรค์คอนเทนต์ “Delight Thai” ส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ช่วยยกระดับไทยสู่สากล
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และหน่วยบริหารจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) หารือร่วมกับ CJ Entertainment หนึ่งในบริษัทอุตสาหกรรมบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือด้านกลยุทธ์และการจัดการเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และการพัฒนากำลังคนด้านนักสร้างสรรค์คอนเทนต์ (Creative Content Creator) โดยไทยและเกาหลีใต้ได้ร่วมกันจัดทำโครงการพัฒนาศักยภาพนักสร้างสรรค์คอนเทนต์ Delight Thai ซึ่ง อว. เชื่อว่า ความร่วมมือครั้งนี้ เป็นการโชว์ความเป็นไทยสู่สากลจากบริบททางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมท้องถิ่น รวมถึงเพิ่มโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้ ความเชี่ยวชาญสำหรับการสร้างสรรค์คอนเทนต์ทางดิจิทัล เช่น ภาพยนตร์ แฟชั่น เทศกาล เป็นต้น
ทั้งนี้ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า เกาหลีใต้มีศักยภาพในการใช้สื่อและความบันเทิง (Content Business) ในการส่งออก Soft Power ซึ่งประชาชนไทยและเกาหลีใต้ต่างมีความนิยมในวัฒนธรรมของกันและกัน โดยเฉพาะวัฒนธรรม K-Pop และ K-Drama ซึ่งไทยยินดีที่จะได้ศึกษา และเรียนรู้ความสำเร็จในการขับเคลื่อน Soft Power ของเกาหลีใต้ เพื่อนำมาปรับใช้กับการขับเคลื่อน Soft Power ของไทย เพื่อเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรของไทยไปสู่ระดับสากล ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยสร้างรายได้เข้าประเทศ ทั้งทางตรงและทางอ้อมอีกด้วย อาทิ อาหาร ศิลปวัฒนธรรม และการท่องเที่ยวของไทย
“นายกรัฐมนตรีขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เห็นความสำคัญ และสร้างโอกาสเพื่อพัฒนาการนำเสนอ ส่งออก Soft Power ไทย โดยเกาหลีใต้เป็นประเทศที่มีศักยภาพมีความใกล้ชิดทางวัฒนธรรมกับไทย เชื่อมั่นว่าการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากความร่วมมือระหว่างกันจะทำให้ไทยสามารถนำเสนอวัฒนธรรมและภูมิปัญญาที่มีศักยภาพเป็น Soft power ที่โดดเด่น ทันสมัย และน่าสนใจ เพิ่มโอกาสให้สินค้าและบริการของไทยในโลกดิจิทัลได้เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ รัฐบาลสนับสนุนการพัฒนาด้านนี้มาอย่างต่อเนื่อง และให้ความสำคัญในการพัฒนาต่อไปเพื่อให้กระแสไทยอยู่ในทุกช่วงของกระแสโลก” นายอนุชา กล่าว
