xs
xsm
sm
md
lg

"ลิซ่า ก้าวไกล"ยกเคสสื่อเปิดหลักฐานไอทีวี เรียกความเชื่อมั่นให้วงการสื่ออีกครั้ง ลั่น ต้องมี กม.คุ้มครองสิทธิสื่อฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันนี้(13 มิ.ย.)น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัวระบุว่า พิราบราบขาวกระพือปีกพร้อมกันสามารถเรียกความเชื่อมั่นกลับมาให้วงการสื่อมวลชนอีกครั้ง เราได้เห็นการทำหน้าที่นำเสนอข้อเท็จจริงและไขข้อสงสัยเรื่องการประชุมผู้ถือหุ้นสถานีโทรทัศน์ไอทีวี ในช่วง1-2เดือนที่ผ่านมา สื่อมวลชนช่วยกันเปิดประเด็น ตั้งคำถามและไขคำตอบให้สังคม จนกระทั่งการออกมาเปิดหลักฐานสำคัญโดย ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้สื่อข่าวที่ใครๆก็รู้จักและยอมรับในบทบาทของเธอ

น.ส.ภคมน กล่าวต่อว่า วันนี้สิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมไทยชัดเจนว่า สื่อมวลชนคือกำลังหลักในการตรวจสอบและสร้างความเป็นธรรมในสังคม หลายครั้งที่สังคมเรียกร้องหาความกล้าหาญในการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน แต่กลับไม่ได้รับการตอบสนองจากผู้ที่เรียกตัวเองว่าสื่อมากนัก ในฐานะที่เคยทำหน้าที่สื่อมวลชน เชื่อเหลือเกินว่าพวกเขาเองก็อยากทำหน้าที่อย่างกล้าหาญในการนำเสนอข้อเท็จจริงเช่นกัน แต่ด้วยกลไกธุรกิจสื่อมวลชนในประเทศไทย มีทุนใหญ่เข้ามาครอบอีกที การทำงานอย่างอิสระและกล้าหาญจึงเป็นสิ่งที่ต้องคำนึง

"เงื่อนไขเหล่านี้เรารู้ดีว่าคืออุปสรรคในการทำหน้าที่ของพี่น้องสื่อมวลชนอย่างสมศักดิ์ศรี เมื่อครั้งมีการสอบสัมภาษณ์ผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ลิซ่าได้นำเสนอ ‘กฎหมายเพื่อคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชน’ ต่อคณะกรรมการคัดเลือกในฐานะที่ตัวเองเคยเป็นสื่อมวลชน และมองเห็นว่าการทำงานของสื่อมวลชนในประเทศไทยถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพในการนำเสนอ ไม่ว่าจากทางตรงหรือทางอ้อม"

น.ส.ภคมน ระบุต่อว่า ที่ผ่านประเทศไทยไม่มีกฎหมายที่บังคับใช้เพื่อคุ้มครองสื่อมวลชนจริงๆ ที่ผ่านมากฎหมายสื่อมวลชนออกมาเพื่อควบคุมไม่ใช่คุ้มครอง ดังนั้นการออกกฎหมายเพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของสื่อมวลชนในการทำหน้าที่จะเป็นการติดอาวุธให้อาชีพสื่อมวลชน ให้เขาได้มีเกราะปกป้องตนเอง เพราะเชื่อว่าเมื่อสื่อทำหน้าที่ของตนเองอย่างตรงไปตรงมาและกล้าหาญ สื่อจะเป็นกลไกสำคัญในการเปลี่ยนประเทศนี้ และเมื่อสื่อทำหน้าที่ของตนเอง สื่อจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมากกว่ากระบวนการตรวจสอบอื่นในประเทศนี้

"วันนี้แม้จะไม่ได้ทำหน้าที่สื่อมวลชนแล้วแต่ยังมีความตั้งใจและเชื่อเสมอว่า สื่อมวลชนต้องมีเสรีภาพในการทำหน้าที่เพราะหากเราสามารถเปิดประตูบานนี้ได้ ประตูที่ถูกปิดทึบอีกหลายบานก็จะถูกเปิดขึ้น ลิซ่าจะผลักดันกฎหมายเพื่อคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนให้สำเร็จ ด้วยจังหวะเวลาในขณะนี้เหมาะสมที่สุด และคนในสังคม ก็เห็นบทบาทของสื่อมวลชนแล้วว่านี่คือกลไกสำคัญในการปกป้องเสรีภาพของประชาชน และหากประเทศไทยมี ‘กฎหมายคุ้มครองสิทธิสื่อมวลชนเพื่อสื่อมวลชน’ ไม่ใช่เพื่อนายทุนและผู้มีอำนาจ เชื่อว่าเราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของสังคมโดยที่มีสื่อมวลชนเป็นกำลังสำคัญ อย่างแน่นอน เราเชื่อว่าในวงการสื่อมวลชน มีคนที่คิดแบบฐปณีย์อีกหลายคน แต่อาจเกรงกลัวต่อสวัสดิภาพการทำงาน ในฐานะพรรคการเมือง กฎหมายเพื่อสื่อมวลชนจำเป็นมากๆ เพราะเสรีภาพของสื่อมวลชนคือเสรีภาพของประชาชน ...แล้วเจอกัน...”


กำลังโหลดความคิดเห็น