โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย นายกฯ สนับสนุนสินค้าดาวเด่นจังหวัดชายแดนภาคใต้ เชื่อมโยงสู่ตลาดการค้าเสรีอาเซียน ขยายการส่งออกไปตลาดต่างประเทศ พร้อมส่งเสริมให้พัฒนาสินค้าตอบสนองความต้องการของตลาดและผู้บริโภค
วันนี้ (13 มิ.ย.) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบการดำเนินงาน สนับสนุนสินค้าดาวเด่นจังหวัดปัตตานี พร้อมสนับสนุนการใช้ประโยชน์ FTA ขยายการส่งออกสินค้าของดีปัตตานี ภายใต้โครงการ “การสร้างเครือข่ายเชื่อมโยง 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สู่ตลาดการค้าเสรีอาเซียน” ส่งเสริมการพัฒนาสินค้าให้ตอบสนองความต้องการของตลาดและผู้บริโภค
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร จัดสัมมนาสนับสนุนสินค้าดาวเด่นของจังหวัดปัตตานี ภายใต้โครงการ “การสร้างเครือข่ายเชื่อมโยง 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สู่ตลาดการค้าเสรีอาเซียน” เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา ณ โรงแรมซี.เอส. จังหวัดปัตตานี โดยภายในงานเน้นการนำความรู้เรื่องความตกลงการค้าเสรี (FTA) กฎระเบียบทางการค้า กลยุทธ์การทำตลาด และแนวโน้มตลาดต่างประเทศ ให้กับผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชน และเกษตรกรกว่า 150 ราย และเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงาน จัดแสดงและจำหน่ายสินค้า เช่น ผ้าบาติก ข้าวเกรียบปลา ลูกหยี น้ำผึ้งชันโรง และขิงผง พร้อมส่งเสริมการพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด และผู้บริโภค ซึ่งให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน รวมถึงได้ลงพื้นที่พบปะผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชน และเกษตรกรในพื้นที่ เพื่อรับฟังข้อมูลการผลิตและการจำหน่ายสินค้า ทั้งอาหารทะเลแปรรูปและผ้าบาติก
ทั้งนี้ ข้อมูลสถิติสินค้าส่งออกที่สำคัญของจังหวัดปัตตานี เมื่อปี 2565 ดังนี้
- การส่งออกปูสด แช่เย็น แช่แข็ง นึ่งหรือต้ม และปูกระป๋อง ไปยังตลาดโลก มูลค่า 46 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีตลาดส่งออกสำคัญ เช่น จีน ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้
- การส่งออกข้าวเกรียบที่มีเนื้อปลาเป็นส่วนผสม และปลาปรุงแต่ง มีมูลค่า 103 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีตลาดส่งออกสำคัญ เช่น จีน ออสเตรเลีย และกัมพูชา
- การส่งออกปลาแห้ง ใส่เกลือ หรือ รมควัน มูลค่า 52.34 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีตลาดส่งออกสำคัญ เช่น ญี่ปุ่น ศรีลังกา และสหรัฐฯ
- การส่งออกผ้าผืน โดยเฉพาะ บาติก มูลค่า 0.71 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลาดส่งออกสำคัญ เช่น อินเดีย ปากีสถาน และเวียดนาม
“นายกรัฐมนตรีสนับสนุนการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งส่วนท้องถิ่นและส่วนกลาง ในการผลักดันสินค้าดาวเด่นของจังหวัดปัตตานี ผ่านการใช้ประโยชน์จาก FTA ซึ่งจะเป็นเเนวทางสำคัญให้เเก่จังหวัดอื่น สร้างสรรค์สินค้าประจำจังหวัด ทั้งสินค้า OTOP หรือสินค้า GI เพื่อเพิ่มลู่ทางการค้าได้ในอนาคต พร้อมเชื่อมั่นว่า การใช้ประโยชน์จาก FTA จะช่วยเปิดโอกาสทางธุรกิจในตลาดส่งออก ลดอุปสรรคทางการค้าให้ผู้ประกอบการในไทย” นายอนุชา กล่าว