อุปทูตจีนคนใหม่เข้าพบไทยสร้างไทย หารือเรื่องรัฐบาลใหม่ มุ่งสานความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างกัน
ค่ำวานนี้(9 มิ.ย.) Mr. Wu Zhiwu อุปทูตของสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยและคณะได้เข้าพบพรรคไทยสร้างไทย ซึ่งนำโดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรค ดร. โภคิน พลกุล ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ และนางสาวธิดารัตน์ ยิ่งเจริญ โฆษกพรรค โดยได้หารือร่วมกันถึงประเด็นเสถียรภาพของรัฐบาลชุดใหม่ ความร่วมมือไทย-จีน โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ และเส้นทางสายไหมทางทะเล ตลอดจนแสวงหาความร่วมมือด้านอื่นๆ ด้วย
ที่ผ่านมา พรรคไทยสร้างไทยผลักดันความร่วมมือระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะการส่งเสริมเยาวชนอาชีวะศึกษา สนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนบุคลากรและนักเรียนนักศึกษาระหว่างกัน ตลอดจนแสวงหาความร่วมมือในการขจัดความยากจน และยกระดับมาตรฐานการครองชีพ ซึ่งจีนประสบความสำเร็จและพร้อมสนับสนุนให้ประชาคมโลกเน้นประชาชนเป็นศูนย์กลางในการพัฒนา
ทั้งนี้ จากการพูดคุย คุณหญิงสุดารัตน์ให้ความเชื่อมั่นว่าพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 8 พรรค ตั้งเป้าหมายในการสร้างบทบาทในเวทีระหว่างประเทศ โดยยึดหลักการของสหประชาชาติ มุ่งเน้นสันติภาพถาวร และประโยชน์จากทำเลที่ตั้งเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานของโลก โดยหลังจากเริ่มต้นโครงการ Belt and Road Initiative (BRI) เมื่อปี 2556 มี 149 ประเทศ และ 32 องค์กรระหว่างประเทศเข้าร่วม ส่งผลให้ปริมาณการค้าระหว่างจีนและประเทศบนเส้นทาง BRI มีมูลค่าสะสมถึง 11 ล้านล้านดอลลาร์ มีการลงทุนโดยตรงกว่า 161.3 พันล้านดอลลาร์
จีนถือเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของไทยกว่าทศวรรษ โดยในปี 2565 มีมูลค่าการค้า 105,404.29 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.53 แม้จะอยู่ในช่วงการระบาดของโควิด-19 ก็ตาม ในขณะที่การค้าระหว่างอาเซียน-จีนในปี 2564 มีมูลค่ากว่า 660,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 29.04 นอกจากนี้ หลังมีการบังคับใช้ Regional Comprehensive Economic Partnership (RCEP) พบว่าการค้าระหว่างไทยและสมาชิกอื่น ๆ เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.11 ต่อปีเป็น 300,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2565 และยังได้รับโอกาสใหม่ ทั้งการขยายฐานเศรษฐกิจและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของผลิตภัณฑ์ในตลาดโลก
จีนมีการลงทุนในไทยมาโดยตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ภายใต้ BRI ได้มุ่งยกระดับห่วงโซ่การผลิตและเชื่อมต่อเส้นทางคมนาคมระหว่างประเทศทั่วโลก เน้นการลงทุนในด้านต่างๆ ทั้งฟินเทค บล็อกเชน AI การดูแลสุขภาพ และการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ และในอีก 3-5 ปีข้างหน้า การเชื่อมโยงทางรถไฟระหว่างจีน ลาว และไทย จะทําให้ต้นทุนการขนส่งสินค้าลดลงร้อยละ 30-50 และมีการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนทางรถไฟจีน-ลาวมีปริมาณมากกว่า 1.9 ล้านตัน โดยปัจจุบันมีรถไฟบรรทุกสินค้าข้ามพรมแดนเฉลี่ยวันละ 12 ขบวน เพิ่มขึ้นจากตอนแรกที่เปิดให้บริการที่มีเพียงแค่ 2 ขบวนต่อวัน
พรรคไทยสร้างไทยเชื่อว่าด้วยความร่วมมือและการพัฒนาตาม BRI จะช่วยให้ไทยเสริมศักยภาพการเป็นศูนย์กลางและจุดเชื่อมต่อการคมนาคมและโลจิสติกส์ของภูมิภาคและโลก ใช้ประโยชน์จากทำเลที่ตั้งที่เชื่อมต่อมหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรอินเดีย โดยสร้างเครือข่ายขนส่งทางบก ทางราง ถนน ท่าเรือ และส่งเสริมให้เกิดคลองไทยเพื่อเชื่อมเหนือและใต้ ตะวันออกและตะวันตก เส้นทางเดินเรือ และเขตเศรษฐกิจในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้ภูมิภาคนี้เป็นศูนย์กลางระดับโลกแห่งใหม่ครอบคลุมประเด็นสันติภาพ การเติบโต การลงทุน และสร้างความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคร่วมกัน