วันนี้(7 มิ.ย.)เจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธาเขตคลองเตย กว่า 10 คน กำลังถือค้อนขนาดใหญ่มาเตรียมทุบกำแพงที่กั้นทางเชื่อมเข้าออกระหว่างซอยสุขุมวิท 38 และสุขุมวิท 40 โดยมีนางสาวสุรางค์รัตน์ สุริยสมบูรณ์ ซึ่งเป็นผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าของที่ดิน พร้อมนายประยุทธ ประเทศเสนา ทนายความ บริษัทกฎหมาย อนันต์ชัย ไชยเดช จำกัด ได้มาคัดค้านการรื้อถอนกำแพงดังกล่าว ท่ามกลางกำลังตำรวจ สน.พระโขนง กว่า 20 นาย มาร่วมสังเกตการณ์ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุทะเลาะวิวาทขึ้น
โดยนายประยุทธ กล่าวว่า เดิมที่ดินแปลงนี้เป็นที่ดินของตระกูลนานา ได้ถูกแบ่งแยกเป็นถนนออกมาจากโฉนดที่ดินเลขที่ 4098 แบ่งเป็นแปลงย่อยจำนวน 32 แปลง รวมถึงแปลงที่ถูกแบ่งเป็นถนนด้วย ซึ่งที่ดินผืนดังกล่าวมีสภาพเป็นถนนซอยตัน และเป็นถนนส่วนบุคคล เพื่อให้เจ้าของที่ดินแปลงย่อย จำนวน 31 แปลง ใช้สอย และหากประชาชนจะใช้ถนนเส้นนี้ก็ไม่ขัดข้อง แต่ที่ดินก็ยังเป็นของตระกูลนานา โดยเฉพาะถนนท้ายซอย ทางตระกูลนานาได้ลาดพื้น เทปูนให้ผู้เช่าพื้นที่เปิดร้านขายของชำมานานกว่า 40 ปี รวมถึงกำแพงที่จะรื้อถอนด้วย
แต่ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้อำนวยการเขตคลองเตย ได้มีหนังสือถึงนายสมศักดิ์ และนายแมน นานา รวมถึงบริษัท ซันชายน์ แลนด์ จำกัด สั่งให้ทุบกำแพง อ้างว่าเป็นที่สาธารณะ ได้มีการขึ้นทะเบียน เป็นทางหลวงเทศบาล จึงได้มอบอำนาจให้ บริษัทกฎหมาย อนันต์ชัย ไชยเดช จำกัด โดยทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ชี้แจง และโต้แย้งคัดค้านมาโดยตลอดว่า ที่ดินผืนนี้เป็นที่ดินส่วนบุคคล ไม่ใช่ที่ดินสาธารณะ และเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2566 ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งว่า ที่ดินพิพาทไม่ใช่ที่ดินสาธารณะ แต่เป็นที่ดินส่วนบุคคล และได้ขอคุ้มครองชั่วคราว โดยศาลอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดี และนัดฟังคำสั่งในเดือนสิงหาคมนี้
นอกจากนี้ ยังมีเอกสารยืนยันว่า ที่ดินผืนนี้ได้เสียภาษีบำรุงท้องที่มาโดยตลอด เมื่อมีการรังวัดสอบเขต ก็จะมาระวังชี้แนวเขต รวมถึงในปี 2563 เคยมีต้นสนขนาดใหญ่บริเวณท้ายซอย กิ่งไม้หักทับรถยนต์ของประชาชน ซึ่งทางผู้เสียหายได้เรียกร้องค่าเสียหายกับสำนักงานเขตคลองเตย แต่ผู้อำนวยการเขตในขณะนั้นแจ้งกับผู้เสียหายว่า ตั้งแต่บริเวณปากซอย ถึงท้ายซอยสุขุมวิท 38 เป็นพื้นที่ส่วนบุคคล ไม่ใช่ที่สาธารณะ แต่ปัจจุบันเจ้าของที่อนุญาตให้ประชาชนใช้ถนนผ่านไปมาได้ จึงไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานเขตคลองเตย
ด้านนายนฤพนธ์ สังขริม หัวหน้าฝ่ายโยธาเขตคลองเตย ยอมรับว่า เอกสารชี้เเจงว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ส่วนบุคคลนั้น เพราะจำนนด้วยหลักฐาน จากลายเซ็น ของตัวเองที่เซ็นรับรองไว้ เมื่อปี2563 พร้อมทั้งรับข้อเสนอจากนางสุรางค์รัตน์ ที่ขอเวลาไปจนถึงเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อรอฟังคำตัดสินของศาลปกครองก่อน
