วันนี้ (6 มิ.ย.)นายพรรณธนู วรรณกางซ้าย ผู้สมัครส.ส.เขต 7 จ.บุรีรัมย์ พรรคเพื่อไทย เข้าร้องเรียนต่อกกต.หลังพบว่าการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พ.ค. กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งนับคะแนนไม่ตรงกับความเป็นจริง รวมทั้งจำนวนบัตรเสียมากกว่าผลต่างคะแนนของผู้ที่ได้ลำดับที่ 1 และ 2 เป็นจำนวนมาก และเจ้าหน้าที่บางหน่วยปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สภ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ เพื่อเป็นหลักฐานไว้แล้ว นายพรรณธนู กล่าวว่า ตนแพ้การเลือกตั้งในพื้นที่ดังกล่าวให้กับผู้สมัครพรรคภูมิใจไทยที่ชนะการเลือกตั้งอยู่ 215 คะแนน และพบข้อสงสัย ข้อพิรุธหลายประการไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ได้ทำการส่งหีบบัตรเลือกตั้งช้า ทั้งที่ทำการนับคะแนนเสร็จตั้งแต่เวลา 20.30น. แต่มาส่งหีบบัตรในเวลา 02.00น. และเจ้าหน้าที่เพิ่งจะนำสายรัดมารัดหีบเลือกตั้งทั้งที่ควรจะทำตั้งแต่อยู่หน่วยเลือกตั้งหลังการนับคะแนนเสร็จ และยังมีการแกะกล่องหีบบัตรนับคะแนน รวมทั้งยังวางอย่างไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย
อีกทั้งยังพบว่าเอกสารประกาศผลนับคะแนนในวันที่ 15 พ.ค.หลังวันเลือกตั้ง 1 วันนั้นไม่มีการลงบันทึกบัตรลงคะแนนไม่เลือกผู้ใด ซึ่งความจริงแล้วข้อมูลบัตรดี และบัตรเสีย กับบัตรลงคะแนนไม่เลือกผู้ใดจะต้องมีการรายงานผลพร้อมกันในคราวเดียวกัน แต่กลับไม่มีการประกาศ ต่อมาวันที่ 19 พ.ค.มีการประกาศจำนวนบัตรลงคะแนนไม่เลือกผู้ใด 1,344 บัตร ซึ่งเมื่อนำบัตรดี บัตรเสีย และบัตรไม่เลือกผู้ใดมารวมกัน จะเห็นว่ามีจำนวนมากกว่าผู้มาใช้สิทธิ 217 บัตร ต่อมาวันที่ 20 พ.ค. กกต.มีการแก้ไขเปลี่ยนบัตรไม่ลงคะแนนเลือกผู้ใดจาก 1,344 บัตร เป็น1,065 บัตร แม้จะมีการเปลี่ยนตัวเลขแล้วแต่พบว่าบัตรยังหายไปอีก 1 ใบ และยังพบบัตรเสียมากถึง 3,900 บัตร ดังนั้นในฐานะผู้สมัครจึงต้องการคำชี้แจงจากกกต.ถึงกระบวนการทั้งหมด และขอเรียกร้องให้กกต.สั่งนับคะแนนใหม่ และหากพบว่ามีการทุจริตการเลือกตั้งจริง ก็ขอให้สั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ในพื้นที่เขต 7 จ.บุรีรัมย์