ผบ.ทร. ลั่นยังต้องกู้ “รล.สุโขทัย”หาสาเหตุเรือล่ม รอสำนักงบฯอนุมัติ หลังมีข่าวเคาะ“งบกลางฯ”ให้ 90 ล.ให้ทร.ควักกระเป๋าจ่ายด้วย คาด 6 เดือนนำเรือขึ้นมาได้ เตือนใครเข้าไปนำสิ่งอุปกรณ์ออกมาผิดอาญา ทร.มอบเหรียญบางระจันเชิดชูเกียรติให้ญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 29 ราย
วันนี้ (1 มิ.ย.) ที่ราชนาวิกสภา พล.ร.อ. เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.)เป็นประธานในพิธีมอบเครื่องหมายเชิดชูเกียรติผู้ปฏิบัติราชการเพื่อชาติ เหรียญบางระจัน ให้แก่ญาติกำลังพลที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปางจำนวน 29 นาย ณ ห้องวุฒิไชยเฉลิมลาภ อาคารราชนาวิก โดย พล.ร.อ.เชิงชาย กล่าวว่า เชื่อมั่นว่าท่านที่ได้รับเหรียญบางระจันในวันนี้ จะระลึกถึงผู้ประสบเหตุ ด้วยความภาคภูมิใจ ที่ทหารหาญเหล่านี้ทำหน้าที่ของตนอย่างชายชาติทหารได้อย่างสมเกียรติ สมศักดิ์ศรี นับเป็นการทำหน้าที่ของทหารเรือไทยอย่างสมบูรณ์ครบถ้วน ด้วยความเสียสละอย่างแท้จริง ซึ่งจะเป็นตำนานให้กล่าวขาน และจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของกองทัพเรือตลอดไป”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2565 ส่งผลให้กำลังพลเสียชีวิต 29 นาย และรอดชีวิต 76 โดยในส่วนของการปฏิบัติ การค้นหากำลังพล กองทัพเรือและหน่วยงานต่าง ๆ ได้ทำการค้นหาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้กองทัพเรือได้ให้ความช่วยเหลือแก่ครอบครัวกำลังพลกองทัพเรือ ที่ จึงได้เร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสิทธิกำลังพล ดำเนินการเพื่อให้การช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อน แก่ครอบครัวของกำลังพลในด้านต่าง ๆ อย่างเต็มที่ ในส่วนของเหรียญบางระจัน เป็นเครื่องหมายเชิดชูเกียรติผู้ปฏิบัติราชการเพื่อชาติ อันแสดงถึงความเสียสละที่ได้เข้ารับใช้ประเทศชาติ รวมทั้งปฏิบัติหน้าที่ราชการในการปกป้องอธิปไตย และรักษาความสงบเรียบร้อยของประเทศด้วยความกล้าหาญ ทั้งนี้กระทรวงกลาโหมจะมอบเหรียญบางระจันให้แก่ผู้ที่ได้รับอันตรายหรือบาดเจ็บจากการปฏิบัติราชการ หรือปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละตรากตรำ หรือเป็นผู้ทำคุณประโยชน์แก่ทางราชการอย่างดียิ่ง
พล.ร.อ.เชิงชาย ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีข่าวสำนักงบประมาณอนุมัติงบกลางให้ ทร.ใช้ในการให้เอกชนเข้าทำการกู้เรือหลวงสุโขทัยที่อับปางว่า ทาง ทร.ได้เสนอของบกลางจำนวน 200ล้านบาท โดยวงเงินดังกล่าวที่ได้เสนอเข้าไปที่กระทรวงกลาโหมแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงบประมาณ ซึ่งการใช้งบกลางในตอนนี้จำเป็นต้องขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ก่อน ส่วนจะให้จำนวนเท่าไหร่นั้นก็จะแจ้งมาที่ ทร. อาจจะเป็นงบกลางทั้งหมด หรือ งบกลางบางส่วน แล้วให้ ทร.ใช้งบฯเหลือจ่ายทั้งหมดสมทบให้ครบ 200ล้าน แต่ทร.มีความพร้อมในการจ้างบริษัทกู้เรือที่อับปางในทันทีที่งบประมาณออกมา ขณะนี้ยังไม่ได้ประกาศเชิญชวน แต่มีบริษัทที่เสนอตัว 4-5 บริษัทโดยการดำเนินการก็เป็นไปตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง คือราคากลางประมาณ 200 ล้านบาท
ผบ.ทร. กล่าวว่า สำหรับขั้นตอนวิธีการ คือ กู้เรือทั้งลำขึ้นมา ไม่ให้มีการตัดชิ้นส่วน เนื่องจากเรือจมอยู่ในระดับความลึก 50 เมตร การทำงานใต้น้ำในระดับน้ำลึกต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญลงไป เพื่อนำเรือขึ้นมาในระดับที่สามารถปฏิบัติการได้ เพื่อทำการซ่อมแซมเรือเพื่อลอยลำ ก่อนนำเข้ามาที่อู่ของ ทร.ได้ ประมาณการในการกู้ 3 เดือนแต่ขั้นตอนในการจัดซื้อจัดจ้างต้องเป็นไปตามระเบียบ แต่คาดว่าคงไม่ทันในสิ้นปีงบประมาณนี้ เพราะขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างต้องทำหลังจากการอนุมัติงบกลางแล้ว ส่วนขั้นตอนจัดซื้อจัดจ้างอย่างน้อย2-3เดือน และใช้เวลาในการกู้ประมาณ 3 เดือน ส่วนงบกลางฯดังกล่าวที่ได้ ก็สามารถกันไว้ใช้ในปีงบประมาณหน้าได้ ไม่มีปัญหา
เมื่อถามว่า ได้มีการเฝ้าระวังไม่ให้มีคนเข้าไปขโมยสิ่งอุปกรณ์บนเรือหรือไม่ พล.ร.อ.เชิงชาย กล่าวว่า เรามีหมู่เรือกวาดทุ่นระเบิดไปฝึกในเรื่องการตรวจสอบเรื่องท้องทะเล บริเวณการเข้าออกท่าเรือต่างๆ ก็ได้ให้ไปตรวจสอบและถ่ายภาพมา ก็พบว่าเรือยังจมที่เดิม และ ตั้งลำอยู่เหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบัน มีเพรียง และสัตว์น้ำมาเกาะที่ตัวเรืออยู่บ้าง แต่ตัวเรืออยู่ในสภาพดี ไม่มีปัญหา โดยจุดที่เรือจมอยู่ห่างจากอ.บางสะพาน 20 ไมล์ทะเล เป็นเขตที่ ศร.ชล ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติไว้ ห้ามไม่ให้ผู้หนึ่งผู้ใดเข้าไปในพื้นที่เพราะจะเป็นอันตรายได้ อีกทั้ง รล.สุโขทัยยังจมอยู่ในพื้นที่ ยังไม่มีการจำหน่ายออกนอกระบบ ดังนั้นคนที่เข้าไปในพื้นที่ก็จะผิดกฎหมาย มีโทษทั้งจำและปรับ ผู้ใดที่ รล.สุโขทัยไปนำสิ่งของ อุปกรณ์ออกมา ดังนั้นบุคคลที่เข้าไปในพื้นที่ มีความผิด ตามพระราชัญญัติการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ปี พ.ศ.2562 หากฝ่าฝืนมีโทษทั้งจำและปรับ และหากผู้ใดนำชิ้นส่วน อุปกรณ์ ยุทธภัณฑ์ ของเรือออกจากเรือ มีโทษลักทรัพย์ ทั้งจำและปรับ
“กู้แน่ รอแค่รัฐบาลอนุมัติ งบกลาง เท่านั้นเอง เพราะวัตถุพยานมีผลสำคัญต่อการสอบสอบสาเหตุที่เรือล่ม หลังจากที่เราได้ข้อมูลพยานบุคคลพร้อมแล้ว ก็จะได้นำส่วนนี้มาประกอบเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง และสามารถตอบข้อสงสัยของประชาชนได้ “ พล.ร.อ.เชิงชายระบุ เมื่อถามว่า จากบทเรียนกรณีนี้ทำให้มีการเพิ่มมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัย และเรือชูชีพในเรือทุกลำใช่หรือไม่ ผบ.ทร. กล่าวว่า ระเบียบมีอยู่แล้วในการกำหนดให้มีเสื้อชูชีพให้ครบทั้งกำลังพล ผู้โดยสารทุกคน แต่ได้กำชับในขั้นตอนการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด