“ชัยธวัช” เผย จะได้ข้อยุติเรื่องประธานสภา กลางเดือนนี้! มองรัฐบาลแห่งชาติไม่ควรเกิดขึ้น เพราะต้องมีฝ่ายค้านถ่วงดุลอำนาจ ส่วนผลพูดคุย ส.ว. ยังเป็นไปได้ดี คาด เห็น โผ ครม. ชัดหลังเลือกนายกฯ
วันนี้ (1 มิ.ย.) นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่า จากกระแสข่าวว่าทางพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลได้ข้อยุติเรื่องตำแหน่งประธานสภา เป็น นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวพรรคเพื่อไทย นายชัยธวัช ระบุว่า ขณะนี้ทางพรรคร่วมยังไม่ได้ข้อยุติในการเลือกประธานสภา ซึ่งพรรคก้าวไกลตั้งเป้าไว้ว่าภายในกลางเดือนมิถุนายนนี้จะได้ข้อยุติ และกระแสข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง รวมถึงมีความเป็นไปได้ว่า กกต. จะรับรอง ส.ส. เร็วกว่าการเลือกตั้งในปี 2562
เมื่อถามว่า ทางพรรคก้าวไกลจะส่งใครเป็นแคนดิเดตในการเลือกตำแหน่งประธานสภา นายชัยธวัช ระบุว่า ตอนนี้ยังไม่มีการพูดคุย และจะหารือภายในช่วงสัปดาห์นี้ พร้อมเชื่อว่าทั้งพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยมีเหตุผลของแต่ละพรรคเอง และจะพูดคุยในรายละเอียดการทำงานร่วม หาข้อยุติได้ 2 สัปดาห์
ผู้สื่อข่าวถามต่อถึงกรณีการแสดงความคิดเห็นของ นายจเด็จ อินสว่าง สมาชิกวุฒิสภา ในการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ นายชัยธวัช ระบุว่า รัฐบาลแห่งชาติ เป็นสิทธิในการเสนอความเห็นส่วนบุคคล แต่คิดว่าคงไม่ใช่ทางออกที่ดี รัฐบาลที่ดีก็ควรมีฝ่ายค้าน ไว้สำหรับตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจ สุ่มเสี่ยงกับการใช้อำนาจโดยมิชอบ ส่วนการเข้าพูดคุยกับ ส.ว. เรื่องการโหวตนายกฯ นั้น การเจรจาตอนนี้เป็นไปในทิศทางที่ดี เมื่อได้พูดคุยกันจริงๆ ก็มีการลดกำแพงลง และได้ตอบคำถามในหลายเรื่องที่ทาง ส.ว. กังวลใจ และเข้าใจในอีกแบบหนึ่งจากการได้ข้อมูลอีกชุด ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ได้ชี้แจง
ส่วนกรณีที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย แสดงความเห็นว่า หากศาลชี้ขาดกรณี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ถือหุ้นสื่อ ITV จนนำไปสู่การเลือกตั้งซ่อมใหม่ทั้งหมดนั้น นายชัยธวัช ระบุว่า ส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะไปไกลขนาดนั้น และจนถึงทุกวันนี้ยังมั่นใจว่าจะสามารถต่อสู้เรื่องนี้ได้
ผู้สื่อข่าวถามถึงการฟอร์มทีมคณะรัฐมนตรี นายชัยธวัช ระบุว่า จะนำไปสู่กระบวนการการแบ่งงานกันทำด้วยตัวเราเอง เพราะฉะนั้นกระบวนการนี้เองจะนำไปสู่การจัดสรรบทบาทของแต่ละพรรคว่าจะมีส่วนในการบริหารกระทรวงใด เมื่อถามย้ำว่า ใกล้ช่วงโหวตนายกฯ จะเห็นโผ ครม. หรือไม่ มองว่า ถ้าหากช่วงเลือกนายกฯ การภายในต้องพูดคุยให้จบเรื่องการแบ่งงานกันทำ แต่สาวนแต่ละพรรคจะจัดสรรบุคลลากรอย่างไร คงเป็นเรื่องของแต่ละพรรค ตนเข้าใจว่าตามธรรมชาติของแต่ละพรรคจะชัดเจนหลังเลือกนายกฯ