เฉลย? “อุ๊งอิ๊ง” โพสต์ “อินสตาแกรม” ชู “มินิฮาร์ท” ร่วมกับแกนนำพรรค เขียนแคปชั่น “ดีลลับ หรือ ดีลรัก แฮร่” “จตุพร” อ่านขาด “เพื่อไทย” เล่นเกมกำจัดจุดอ่อน “ไพศาล” ยก 4 สาเหตุ ทำ “ก้าวไกล” ตกสวรรค์
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้(29 พ.ค.66) ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ กรณีมีภาพ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย กับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย อยู่ด้วยกันที่ สนามคิง เพาเวอร์ สเตเดียม ในเกมฟุตบอลพรีเมียร์ลีกนัดปิดฤดูกาลที่ เลสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านชนะ เวสต์แฮม 2-1
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 16.03 น. (29 พ.ค.) “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย โพสต์ภาพใน “อินสตาแกรม” ingshin21 ขณะประชุมร่วมกับแกนนำเพื่อไทยหลายคน พร้อมชูมือมินิฮาร์ท และเขียนแคปชั่นว่า “ดีลลับ หรือ ดีลรัก แฮร่”
ขณะเดียวกัน นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน กล่าวในรายการ ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน "ความหวังของใคร?" (28 พ.ค.66) มีบางช่วงบางตอนน่าสนใจอย่างมาก ระบุว่า
“พรรคเพื่อไทยเล่นเกมกำจัดจุดอ่อน หาเรื่องทะเลาะข่มขย่มแย่งตำแหน่งประธานสภาฯ แล้วหักก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน รอเวลาล้างยางอายชั่วประเดี๋ยวจึงแยกขั้วไปตั้งรัฐบาลขึ้นมาแทน
กระดานการเมืองขณะนี้ เหมือนเล่นเกมกำจัดจุดอ่อน โดยใช้ความลื่นไหลแบบวิถีลอดช่องสิงคโปร์ที่บางพรรคถนัดแสดงบทสลัดทอดทิ้งพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นสิ่งแปลกปลอมของนักเลือกตั้งให้ไปเป็นพรรคฝ่ายค้าน
นอกจากนี้ เมื่อ 8 พรรครวม 312 เสียงจะตั้งรัฐบาล จึงเหลือฝ่ายพรรค 188 เสียง หากพรรคเพื่อไทยเดินกลเกมหมาป่ากับลูกแกะ ก่อกวนข่มขู่จะเอาตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรให้ได้ ถ้าพรรคก้าวไกลไม่ยอม ย่อมลากลามไปโหวตในสภา ซึ่งเป็นเวทีให้ฝ่าย 188 เสียงได้แสดงบทเทเสียงให้พรรคเพื่อไทย ถึงที่สุด พรรคเพื่อไทยจึงมีแต่ได้ตามสัญชาตญาณของหมาป่าที่ต้องการได้หมด กินรวบอย่างเดียว ลูกแกะอย่างพรรคก้าวไกล จึงยากจะขัดขืนความอยากและกิเลสของมนุษย์ได้
การรวมเสียง 312 เสียงตั้งรัฐบาล ยังมองไม่เห็นหนทางไปถึงตำแหน่งนายกฯ ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แม้มีเสียงข้างมากในสภาก็ตาม แต่ความเป็นจริงยังเป็นเสียงข้างน้อยของสองสภาสำหรับโหวตเลือกนายกฯ ซึ่งจะต้องได้ 376 เสียงเป็นอย่างน้อย ดังนั้น พรรคร่วมรัฐบาลจึงขาดอีก 64 เสียงมาหนุนเติม ซึ่งในทางการเมืองแบ่งขั้วจุดยืนการเมืองย่อมยากอย่างยิ่ง”
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า
“เหตุที่จะทำให้ก้าวไกลตกสวรรค์
1.รัฐบาลผสมที่นำโดยพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ไม่สามารถขาดพรรคเพื่อไทย (พท.) ได้ ถ้าขาด พท. แล้วการจัดรัฐบาลก็ไม่สามารถสำเร็จได้
แต่ พท. สามารถจัดรัฐบาลโดยไม่มี ก.ก. ได้ นี่คือข้อคำนึงสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาลผสม ก.ก. + พท.
2.หลักคิดของ ก.ก. ที่จะจัดตั้งรัฐบาลผสม 312 เสียง ต้องพึ่งเสียงของ ส.ว. ถึง 64 เสียง ดังนั้นถ้าไม่เชิญพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มาร่วมรัฐบาลก็ไม่มีทางที่จะได้รับเลือกเป็นนายกฯ
เป็นไปได้ว่าการรับรองผลเลือกตั้ง ส.ส. อาจจะรับรองเพียง 475 คน ก่อน ส่วน 25 คน ที่เหลือ อยู่ระหว่างการตรวจสอบไต่สวน แต่ก็สามารถเปิดสภาได้แล้ว ถ้าจำนวน 25 คน ที่ยังไม่ประกาศ อยู่ในจำนวน 312 เสียง ก็จะทำให้จำนวนเสียงที่ต้องพึ่ง ส.ว.มากขึ้นไปอีก
ความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาลต่อไป จะอยู่ที่ พท. ทันที
แผนที่จะเสนอชื่อแคนดิเดตนายกของ ก.ก. ไปเรื่อยๆ จนกว่า ส.ว. หมดวาระในต้นปี 67 เป็นความเพ้อฝัน เพราะประธานหรือสภามีอำนาจลงมติให้พิจารณาแคนดิเดตนายกฯ ลำดับต่อไปได้ทันที
3.ไสยศาสตร์ทางกฎหมายกำลังร่ายมนต์ปีศาจสอยคุณพิธาไม่ให้ดำรงตำแหน่งนายกฯ และถึงขณะนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะแก้กลกันอย่างไร ความคิดการปฏิวัติสีที่มีมวลชนเรือนล้านลุกฮือเข้ากรุงเทพฯ ก็เสี่ยงที่จะเกิดความรุนแรงชนิดที่คาดหมายได้ยาก
4.ในกรณี ก.ก. จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ พท. สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้แน่ เพราะข้อจำกัดมีน้อยกว่ากันมาก
พท.อาจจัดตั้งรัฐบาลได้ 2 รูปแบบคือ
-ร่วมกับพรรคที่แถลงการณ์ร่วมเดิม แต่สลับเพื่อไทยเป็นแกนนำและเชิญ พปชร. เข้าร่วมก็จะได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. พอที่จะเลือกนายกได้
-จัดตั้งรัฐบาลผสมประกอบด้วยทุกพรรคการเมืองโดย ก.ก. และรวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เป็นฝ่ายค้าน
ไม่ได้กล่าวถึง รทสช. เพราะจะเป็นฝ่ายค้านทุกกรณี ตามที่วิเคราะห์มาโดยลำดับ
สภาพเหล่านี้สมาชิกและผู้สนับสนุน ก.ก. จะต้องพิจารณาโดยแยบคาย+ยืดหยุ่น+พลิกแพลง ว่าจะยอมหักไม่ยอมงอ หรือยืดหยุ่นไปตามสถานการณ์เพื่อจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ ตามฉันทามติของประชาชน
อันการรบแบบแผนซึ่งหน้านั้น นักการทหารทั่วไปใครก็รบได้ แต่ชัยชนะในการรบนั้นอยู่ที่ความพลิกแพลง ซึ่งผู้เข้าถึงมรรควิถียอดขุนพลจึงจะสามารถใช้ได้
มาไกลขนาดนี้แล้ว อย่าให้เสียชื่อชาวระโนตเลยครับ!!!”
