ก้าวไกล เผย ส.ว.เริ่มมีความเข้าอกเข้าใจ เชื่อ ส.ส.ลด 1 เสียง ไม่มีผลกระทบ ย้ำ ต้องเป็นประธานสภา เพื่อผลักดันกฎหมาย-สร้างส่วนร่วมประชาชน
วันนี้ (25 พ.ค.) ที่พรรคก้าวไกล น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ว่าที่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงข่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาล หลังพรรคร่วมรัฐบาลได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจร่วมกัน หรือ MOU ว่า หลายฝ่ายแสดงความเห็นในแง่บวก ทางด้าน ส.ว.เองก็เริ่มมีความเข้าอกเข้าใจ
กรณีประธานสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล ยืนยันต้องการตำแหน่งดังกล่าว เพราะมีความสำคัญต่อการผลักดันกฎหมายเร่งด่วนทั้ง 45 ฉบับ รวมถึงกฎหมายสำคัญอื่นๆ รวมถึงกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ลุล่วงผ่านการประชุมรัฐสภา จึงต้องการประธานสภา ที่มีเจตจำนงแน่วแน่
อีกทั้งการผลักดันให้เกิดรัฐสภาที่โปร่งใสและประชาชนมีส่วนร่วม ที่ผ่านมา พยายามผลักดันให้มีการถ่ายทอดสดการประชุมในระดับกรรมาธิการและอนุกรรมาธิการด้วย แต่ไม่สำเร็จ ซึ่งในการนี้จะเร่งผลักดันต่อ เช่นเดียวกับนโยบายจัดตั้งสภาเยาวชนเพื่อรับฟังเสียงของเยาวชนผู้ยังไม่มีสิทธิเลืกตั้งได้มีที่ทางแสดงออก และจะขึ้นตรงกับสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวถึงกรณีการตรวจสอบความถูกต้องของผลการเลือกตั้งเป็นทางการของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่พบว่า จำนวน ส.ส.แบบแบ่งเขตของพรรคก้าวไกล ลดลง 1 คน ใน จ.ปราจีนบุรี จนเหลือ 112 ที่นั่ง พรรคได้เห็นข้อผิดพลาด และได้ยืนยันจำนวนตัวเลขดังกล่าวแล้ว อยู่ในคาดการณ์ จำนวนขณะนี้ของพรรคก้าวไกลอยู่ที่ 151 เสียง ไม่กระทบกับการจัดตั้งรัฐบาล
ส่วนการเจรจากับพรรคร่วม การสรรหาคณะรัฐมนตรี (ครม.) และการหารือนโยบายที่ยังเห็นต่างกัน เช่น การขึ้นค่าแรง 450 บาท ซึ่งพรรคเพื่อไทยให้สัญญาณทางบวก ระบุว่า ไม่ขัดข้อง แต่สำหรับนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ของพรรคเพื่อไทย และนโยบายอื่นๆ นั้น ยังต้องอาศัยการพูดคุยกับพรรคร่วมเพื่อหาข้อสรุปก่อนจัดทำนโยบายร่วมเสนอต่อรัฐสภา
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวถึงวาระร่วมในการนำกัญชากลับสู่บัญชียาเสพติด ว่า มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เจ้าพนักงานสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ถึงอย่างนั้นก็เข้าใจความกังวลของประชาชน และไม่ได้มุ่งคุ้มครองเฉพาะประชาชนเท่านั้น แต่รวมถึงผู้ประกอบการและผู้ปลูกที่ปฏิบัติตามกฎหมาย จึงจำเป็นต้องดูแลไม่ให้เกิดผลกระทบกับคนกลุ่มนี้จากภาวะสุญญากาศที่ผ่านมา