อดีต ปธ.สภา ปัดพูดถึง “พิธา” ปมกดดัน ปชป. โหวตนายกฯ ขอประชาชนอย่าวิจารณ์จากข้อมูลคลาดเคลื่อน ส่วนข่าวที่ระบุจะร่วมเเต่กับประยุทธ์เท่านั้น เป็นการบิดเบือน
วันนี้ (17 พ.ค.) นายชวน หลีกภัย อดีตประธานรัฐสภา และ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ชี้แจงกรณีมีการนำเสนอข่าวที่คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง เกี่ยวกับท่าทีการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล ที่กลายเป็นประเด็นถูกพาดหัวข่าวเชื่อมโยงจนเกิดความเข้าใจผิด ว่า เป็นการพาดพิงไปถึง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โดยยืนยันว่า ประเด็นที่ตนเองพูดถึงว่าอย่าไปก้าวก่ายพรรคการเมืองอื่นนั้น เป็นการพูดถึงกระแสกดดันจากบุคคลบางกลุ่มที่เรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคอื่นๆ ตัดสินใจเรื่องการโหวตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเรื่องนี้ แต่ละพรรคมีกระบวนการพิจารณา ตามขั้นตอนของแต่ละพรรคอยู่แล้ว ไม่ต้องมีใครแนะนำ หรือมากดดัน เพราะการตัดสินใจในนามพรรค ต้องมีมติพรรค มีความรับฟังความเห็นของผู้บริหารพรรค
อีกทั้งเรื่องนี้ นายพิธา ก็ไม่ได้เป็นผู้กดดัน และไม่ได้เป็นกลุ่มคนที่ตนหมายถึง และไม่มีประเด็นอะไรต้องไปวิจารณ์ ที่ผ่านมาก็ได้แสดงความยินดีกับพรรคก้าวไกล ที่ชนะเลือกตั้งมาได้โดยไม่มีข้อครหาเรื่องซื้อเสียง จึงขอประชาชนว่าอย่าวิจารณ์ หรือใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่คลาดเคลื่อน
เช่นเดียวกับกรณีที่สื่อโซเชี่ยลมีเดียบางสื่อ มีการใช้ภาพของตน และข้อความ ไประบุว่า “จะร่วมเเต่กับประยุทธ์เท่านั้น พรรคอื่นเป็นโจรหมดในสายตาชวน” ถือเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง และมีเจตนาให้เกิดความเข้าใจผิด จนสร้างความเสียหายให้แก่ตนเองและพรรคประชาธิปัตย์
ซึ่งข้อเท็จจริง ตนเองปราศรัยบนเวทีพรรคประชาธิปัตย์ ที่วงเวียนใหญ่ เมื่อวันที่ 23 เมษายน ในเชิงหลักการว่า พรรคการเมืองที่มีความเป็นสถาบันอย่างประชาธิปัตย์ ต้องพร้อมที่จะเป็นทั้งรัฐบาลเเละฝ่ายค้าน
โดยระบุว่า “เราอย่าไปคิดว่าจะเป็นรัฐบาลอย่างเดียว เราต้องพร้อมเป็นฝ่ายค้านด้วย ไม่ใช่ว่าพระมาชวนร่วมรัฐบาลก็ต้องเชื่อตามพระ หรือโจรชวนไปร่วมรัฐบาลก็ไปร่วมกับโจร เพราะการจะไปร่วมรัฐบาลเราต้องมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ไม่ได้เป็นการพาดพิงไปถึงใครว่าเป็นรัฐบาลโจร หรือใครเป็นพระ ตามที่มีการตีความหมายกัน
นายชวน ยังกล่าวด้วยว่า ส่วนตัวรู้สึกไม่สบายใจกับข้อมูลข่าวสารที่คลาดเคลื่อนจนตกเป็นเหยื่อวิพากษ์วิจารณ์ รวมถึงมีคนนำข้อความบิดเบือนเหล่านี้ไปแสวงหาประโยชน์ กับความเห็นต่างของตัวเอง ทำให้เพิ่มความขัดแย้งในสังคม ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง